สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่าสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของรัสเซียรายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคง ว่าทางการภูมิภาคเบลโกรอด ทางตะวันตกของรัสเซีย อพยพประชาชนมากกว่า 11,000 คน เนื่องจาก “พฤติกรรมของศัตรู” ที่กำลังเกิดขึ้นตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ ภูมิภาคเบลโกรอดตั้งอยู่ติดกับภูมิภาคเคิร์สก์ ซึ่งเป็นจุดที่กองทัพยูเครนเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินข้ามพรมแดน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่วัน รัสเซียอพยพประชาชนมากกว่า 76,000 คน ออกจากเมืองหลายแห่งในภูมิภาคเคิร์สก์ หลังกองทัพยูเครนปฏิบัติการทางทหาร รุกคืบเข้าไปในภูมิภาคเคิร์สก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย เป็นระยะทางมากกว่า 30 กิโลเมตร นับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือว่าไกลที่สุด ตั้งแต่สงครามระหว่างทั้งสองประเทศเปิดฉาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงด้านความมั่นคงของยูเครนยืนยัน การเป็นผู้เปิดฉากปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินในรัสเซีย “เพื่อทำลายฐานที่มั่นของศัตรู สร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด และทำลายเสถียรภาพของรัสเซีย ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถปกป้องพรมแดนของตัวเองได้” แต่ยืนยันว่า กองทัพยูเครนไม่มีเป้าหมายยึดครองพื้นที่ในรัสเซีย “เนื่องจากปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ” และจำนวนทหารที่ส่งไปปฏิบัติการครั้งนี้ “มากกว่าที่รัสเซียคาดการณ์ไว้”
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่ารัฐบาลมอสโก “ต้องสัมผัสกับผลกระทบของสงคราม” จากการเป็นฝ่ายรุกรานยูเครนก่อน “ทหารยูเครนกำลังพยายามผลักดันสงครามให้กลับคืนไปยังดินแดนของผู้รุกราน”
อนึ่ง กองทัพรัสเซียปฏิบัติการภาคพื้นดิน ที่ภูมิภาคคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาถึงภูมิภาคซูมีที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งซูมีเป็นภูมิภาคซึ่งยูเครนใช้เป็นฐานเปิดฉากข้ามพรมแดนครั้งนี้ ตามข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงรัสเซีย.
เครดิตภาพ : AFP