กรณีสำนักข่าวในรัสเซียหลายสำนัก รายงานข่าวว่า มีครอบครัวนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย เดินทางมาเที่ยวที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน และลูกชายวัย 7 ขวบ พลัดตกไปในบ่อน้ำพุร้อนของเอกชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่พอไปแจ้งความที่ สภ.ปาย ถึง 3 รอบ ตำรวจไม่รับแจ้งความ จนเกิดข้อครหามากมายนั้น

โต้สื่อนอก ยันครอบครัวรัสเซีย ยังไม่แจ้งความ ลูกชายตกบ่อน้ำร้อน ลวกตัว 90%

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจท่องเที่ยว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณน้ำพุร้อนดังกล่าว โดยมีวัดขนาดของบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมข้อมูลแจ้งไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยน้ำพุร้อนแห่งนี้ เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ อยู่ริมถนนที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กับ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ บริเวณบ่อที่อยู่ติดถนนมีราวเหล็กกั้นสูง 80 ซม. และมีความยาวตลอดราวกั้น 36 เมตร นอกจากนี้ยังมีป้ายแจ้งเตือนสีแดงมองเห็นชัดเจนว่า ‘พื้นที่อันตราย ห้ามลงเล่น’ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งยังมีป้ายบอกด้วยว่า บ่อต้มไข่ อุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียส สามารถมองเห็นเมื่อเดินเข้ามาห่างจากบ่อน้ำพุ  3 เมตร

ส่วนประเด็นที่ นางอิลิน่า เครปโตว่า อายุ 35 ปี ชาวรัสเซีย ผู้เป็นแม่ของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ระบุว่า ตำรวจ สภ.ปาย ไม่รับแจ้งความ ล่าสุดเพื่อนของนางอิลิน่า ได้ชี้แจงว่า เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน พร้อมระบุว่า นางอิลิน่าไม่ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ปาย แต่ได้เดินทางเข้า จ.เชียงใหม่ ทันที เพื่อรีบนำลูกชายส่ง รพ. หลังจากนั้นได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้แจ้งสถานที่เกิดเหตุเป็นน้ำพุร้อนสันกำแพง โดยช่วงแรกติดขัดด้านการสื่อสาร ทำให้ตำรวจยังไม่สามารถลงบันทึกได้ ก่อนที่นางอิลิน่า จะกลับมาพร้อมกับล่าม ทำให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานตามความประสงค์ และแก้สถานที่เกิดเหตุใหม่

ด้าน พ.ต.ท.มกรา ศรีสกุลพิสุทธิ์ สว.ทท.4 กก.2 บก.ทท. กล่าวว่า หลังจากนี้ตำรวจท่องเที่ยว จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องของการย้ายไปพักฟื้นใน รพ.ของรัฐ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า นอกจากนี้จะดูว่ากองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในส่วนของ บช.ทท. จะนำมาช่วยได้หรือไม่ นอกจากนี้จะหารือกับเจ้าของพื้นที่ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชัดว่าอยู่ในความดูแลของทางหลวงชนบท หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก

ขณะที่ พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ปาย ได้ร่วมตรวจสอบกรณีดังกล่าว ก็พบว่าที่เกิดเหตุเป็นโป่งน้ำร้อนเหมืองแร่ เมืองแปง บ้านสบสา หมู่ 2 ต.เมืองแปง อ.ปาย ทาง สภ.ปาย จึงได้ตรวจสอบกับพนักงานสอบสวนและตำรวจทุกนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ 4 ต.ค. จนถึงปัจจุบัน ยืนยันว่าไม่มีผู้ใดมาแจ้งความในเรื่องดังกล่าว และมีตรวจกล้องวงจรปิดของ สภ.ปาย อย่างละเอียดก็ไม่พบ จึงเชื่อว่าเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เข้ารับแจ้งความกับผู้เสียหายแล้ว สำหรับที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำพุร้อน มีน้ำร้อนผุดจากใต้พื้นดิน ผู้คนสามารถเข้าไปชมได้ ไม่มีคิดค่าบริการและไม่มีผู้ดูแล มีป้ายเตือนพื้นที่อันตรายห้ามลงเล่น Danger แต่ไม่มีไม้กั้น จุดที่พลัดตกไม่ทราบว่าเป็นบริเวณใด แต่พื้นที่ดังกล่าวมีอุณหภูมิสูง หากโดนน้ำร้อนก็จะเป็นอันตรายได้ ทาง สภ.ปาย ได้ประสานไปยัง อบต.เมืองแปง ให้จัดทำป้ายเตือนเพิ่มเติม เพื่อมิให้เกิดเหตุซ้ำอีก