กรณีตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สนธิกำลังบุกจับ น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธ์ หรือ ซ้อปลา แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ ‘ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง’ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ได้ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม่ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังหลอกผู้เสียหายกว่า 200 คน ลงทุนแชร์ออนไลน์และแชร์ทอง สร้างความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ก่อนเตรียมนำตัวฝากขัง ศาลอาญาผัดแรกผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ภายในวันนี้ (15 ต.ค.) นั้น

ฝากขัง ‘ซ้อปลา’วันนี้ค้านประกัน ประสานตร.สงขลาสอบเส้นทางการเงิน-อายัดทรัพย์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ต.ค. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. กล่าวถึงคดีดังกล่าว ว่า ในส่วนของ บก.ปอศ. ที่ผ่านมามีผู้เสียหายประสงค์เข้าแจ้งความเอาผิดกับ น.ส.กมลวรรณ แล้ว 8 ราย สำหรับคดีของผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่เหลือ ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา อย่างไรก็ตามหากผู้เสียหายคนอื่นๆ มีความประสงค์อยากให้มีนำสำนวนคดีทั้งหมดมารวมเป็นสำนวนคดีเดียวกันกับทาง บก.ปอศ. ก็ต้องไปดำเนินการยื่นเรื่องขอโอนสำนวนคดีที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)

 
พล.ต.ต.พุฒิเดช กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของการตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆ ของ น.ส.กมลวรรณ เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการสืบทรัพย์และตรวจพิสูจน์ทราบว่า ทรัพย์สินต่างๆ ที่ครอบครองอยู่ มีทรัพย์สินใดบ้างที่ได้มาจากการกระทำความผิด อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่า เข้าข่ายความผิดฟอกเงิน จะมีประสาน ปปง. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายยึดทรัพย์ฟอกเงินต่อไป

 
ในส่วนของ นายจตุพล ปิ่นทองพันธ์ อายุ 38 ปี สามี น.ส.กมลวรรณ หรือ ซ้อปลา ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เบื้องต้นทราบว่าภายหลังพนักงานสอบสวนนำตัวส่งฝากขังศาลอาญาผัดแรก เมื่อวาน (14 ต.ค.) ที่ผ่านมา ทางญาติและทนายความของผู้ต้องหาได้ยื่นเงินสด 3 แสนบาท เป็นหลักประกันเพื่อขอรับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมาสู้คดี ซึ่งต่อมาทางศาลจะพิจารณาเห็นควรให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 

รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.กมลวรรณ เคยออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังอ้างว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่เป็นตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.บก.ภ.จว.สงขลา รีดเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว หลังบุกเข้าตรวจค้นบ้านพัก ก่อนยึดเงินสด 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณหนัก 60 บาท ไปตรวจสอบนั้น ในส่วนนี้ เบื้องต้นทางตำรวจ บก.ภ.จว.สงขลา อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะแยกเป็นคนละส่วนกับคดีโกงแชร์ที่ น.ส.กมลวรรณ ตกเป็นผู้ต้องหา