เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายอธิวัฒน์ ศิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายฐิติวัฒน์ โชคหิรัญกาญจน์ อายุ 60 ปี กรณีถูกเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ติดกัน มีอาชีพเป็นครูที่ จ.ฉะเซิงเทรา คุกคามและใช้อาวุธปืนข่มขู่ ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลา 04.44 น.ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ หวั่นไม่ปลอดภัย วอนต้นสังกัดตรวจสอบจริยธรรม
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.66 เวลาประมาณ 20.24 น.เพื่อนบ้านซึ่งเป็นคู่กรณี เดินมาเปิดฝากระโปรงหลังรถ จากนั้นได้หยิบอาวุธเอามาเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง แล้วก็เดินเข้าบ้าน ต่อมาวันที่ 6 เม.ย.67 กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเพื่อนบ้านคนเดิมเดินมาหยิบกรวยหน้าบ้านของนายฐิติวัฒน์ จากนั้นได้นำไปโยนทิ้งแล้วเดินเข้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ล่าสุดวันที่ 18 ส.ค.67ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.44 น.ขณะที่นายฐิติวัฒน์ กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน คู่กรณีได้เดินลงมาจากรถพร้อมภรรยา จากนั้นได้ตะโกนด่าทอนายฐิติวัฒน์ พร้อมกับปรี่เข้าไปจะทำร้าย แต่ภรรยาของคู่กรณีเข้ามาห้ามและพาเข้าบ้าน จึงไม่มีเหตุบานปลาย
โดยบ้านของ นายฐิติวัฒน์ เป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น พักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วยแม่ซึ่งป่วยติดเตียง และลูกอีก 2 คน นายฐิติวัฒน์ เปิดเผยว่า เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่เพื่อนบ้านแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ จากนั้นก็มีปากเสียงกระทบกระทั่งกันเรื่องที่ตนไปบอกว่าถ้าคุณล้างพื้นในบ้าน ให้ช่วยกวาดขยะหน้าบ้านของตนออกไปด้วย ซึ่งมันไปแต่น้ำ ขยะยังอยู่ที่หน้าบ้านของตน ซึ่งเขาตอบกลับมาว่า ถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ให้ย้ายบ้านเข้าไปอยู่ข้างใน หลังจากนั้นก็มีเรื่องกันมาตลอด ซึ่งตอนนั้นเขาบอกว่าถ้ามีเรื่องอะไร ให้บอกเขาได้เลย
จนกระทั่งวันหนึ่งที่บ้านเขามีงานปาร์ตี้กัน และมีการร้องคาราโอเกะกันจนเวลาล่วงเลยไปจนถึง 03.00 น. ตนจึงสะดุ้งตื่นและบันทึกเสียงขณะที่เขาร้องคาราโอเกะเอาไว้และให้เขาดู ปรากฏว่ามีปากเสียงกัน และเขาก็ท้าต่อย แต่ตนไม่สู้ ซึ่งวันนั้นเพื่อนเขามาเคลียร์และขอโทษเพราะเพื่อนเขาเป็นคนเปิดเพลง หลังจากนั้นตนจึงไปหาข้อมูลว่าเพื่อนบ้านคนนี้เป็นใคร จนกระทั่งทราบว่าเขาเป็นครูอยู่ที่วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่ง จ.ฉะเชิงเทรา และเป็นนักมวยมาก่อน หลังจากนั้นพอเขากลับบ้าน เขาก็มาด่าทอและหาเรื่องตนตลอด ซึ่งเขาจะกลับมานอนที่บ้านหลังนี้เฉพาะคืนวันศุกร์และจะเดินทางออกไปตอนเช้าวันจันทร์ ทุกครั้งเวลาที่เขามาหาเรื่อง ตนก็จะโทรเเจ้งสายตรวจให้มาระงับเหตุ พอสายตรวจมาเขาก็จะเงียบหายไป
พอผ่านไปสักระยะ เขาก็เอาอีก ล่าสุดขณะที่ตนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน เขาก็เข้ามาด่าทอเสียๆหายๆและปรี่เข้ามาจะทำร้าย ซึ่งตนคิดว่าเขาเป็นอันตรายกับชีวิตของตน จึงไปแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ อยากจะวอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานต้นสังกัดของเขาให้ตรวจสอบจริยธรรม ว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นครูได้หรือไม่ ในเมื่อตัวเองทำตัวเเบบนี้แล้วจะไปอบรมสั่งสอนใครได้ และฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเร่งรัดคดีให้ด้วย เรื่องนี้ตนจะไม่รับคำขอโทษและยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายฐิติวัฒน์ กล่าวอีกว่า ถึงแม้เราว่าจะมีเงินซื้อบ้านได้ แต่เราไม่สามารถซื้อเพื่อนบ้านได้ เราหวังว่าซื้อบ้านเพื่อเป็นที่พักอาศัยและเอาไว้พักผ่อน ไม่อยากมีปัญหากับใคร ขออยู่กับครอบครัวอย่างสงบก็พอ