สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบูจุมบูรา ประเทศบุรุนดี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ว่ากระทรวงสาธารณสุขบุรุนดีออกแถลงการณ์ ว่าจำนวนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง หรือเอ็มพ็อกซ์ สะสมในประเทศอย่างน้อย 171 คน นับตั้งแต่มีการยืนยันผู้ป่วยสามคนแรก เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
Au Burundi, où + de 170 cas de #Mpox ont été confirmés, avec le lourd fardeau qui pèse sur les enfants, @UNICEF accompagne le @BurundiGov dans dans la coordination & la réponse à l’épidémie, à travers une approche multisectorielle qui met les enfants au centre des interventions. pic.twitter.com/M28uPR9Umc
— UNICEF Burundi (@UNICEF_Burundi) August 22, 2024
จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการยืนยันผู้เสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิงในบุรุนดี แต่กระทรวงสาธารณสุขของประเทศแสดงความวิตกกังวล ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดรอบนี้ “มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” และมีการคาดการณ์ด้วยว่า การแพร่ระบาดน่าจะมาจากกลุ่มเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “เคลด 1บี” ซึ่งกลายพันธุ์มาจากกลุ่มสายพันธุ์ที่ 1 หรือเคลด 1 และเชื้อโรคเดินทางข้ามพรมแดนโดยมีมนุษย์เป็นพาหะ จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก)
แม้ฝีดาษลิงถือเป็นหนึ่งในโรคประจำถิ่นของแอฟริกา แต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เคลด 1บี ส่งผลให้องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว “เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” เป็นครั้งที่สอง ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ต่อจากการแพร่ระบาดระหว่างปี 2565-2566 ซึ่งตอนนั้นเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์ที่ 2 หรือเคลด 2 ที่มีความรุนแรงน้อยกว่า.
เครดิตภาพ : AFP