เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ห้องแกลลอรี 5 หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วธ.เป็นประธานพิธีแถลงข่าวงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” และโครงการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” พร้อมด้วยนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดวธ. ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย นายเปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ทั้งมีการเสวนาเกี่ยวกับงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” และโครงการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” และการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยผู้แทนสถานทูตและคู่สมรสของทูต 9 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา โมร็อกโก เอลซาวาดอร์ เคนยา มองโกเลีย อินโดนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาเรนห์ และโกตดิวัวร์ และการจัดแสดงชุดผ้าไหมไทยที่ชนะการประกวดโครงการ “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023”
น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า วธ.ได้ร่วมกับสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายวัฒนธรรม จัดทำโครงการมหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13 ขึ้น เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2567 และสนับสนุนผ้าไหมไทยให้เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและนานาประเทศ ซึ่งวธ. ร่วมกับสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทยและหน่วยงานต่างๆจัดงานดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2555 และดำเนินการจัดงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้งานก้าวสู่ปีที่ 13 โดยไฮไลท์ของงานคือ การเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยคณะรัฐมนตรี ผู้แทนรัฐบาลไทย เอกอัครราชทูต และคู่สมรส ผู้แทนสถานทูต 40 ประเทศ โดยผลงานการออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไหมทุกชุดเป็นฝีมือของนิสิต นักศึกษาไทยในโครงการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” ทำให้ Soft Power ด้านการออกแบบและแฟชั่น รวมถึงผ้าไหมไทยได้รับการเผยแพร่สู่ระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ผ้าไหมทุกผืนล้วนมาจากโครงการศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนได้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สามารถสร้างอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CPOT ผ้าไหมภายในงานด้วย สำหรับการเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยจะมีขึ้นในวันที่ 31 ส.ค.นี้ที่หอประชุมกองทัพเรือ และจะมีการโชว์ชุดผ้าไหมไทย วันที่ 1-8 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ สุขุมวิท
ดร.สุมาลี อุทัยเฉลิม นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทย กล่าวว่า สำหรับงาน “มหกรรมผ้าไหม ไหมไทยสู่เส้นทางโลก ครั้งที่ 13” วันที่ 31 ส.ค. ณ หอประชุมกองทัพเรือ มีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และนิทรรศการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 39 จังหวัด การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CPOT ผ้าไหม การแสดงศิลปวัฒนธรรม 2 ชุด ได้แก่ ชุดอลังการสุวรรณภูมิ มีขบวนแห่โคมยุคสุโขทัย ยุคอยุธยามีการเชิดหนังใหญ่ผสมผสานระบำรำฟ้อน การเชิดหุ่นละครเล็ก ส่วนยุครัตนโกสินทร์เป็นการแสดงศิลปร่วมสมัย รำไทยผสมการเต้นแจ๊ส บัลเลต์โมเดิร์น และชุดเส้นใยศิลป์จากท้องถิ่นสู่สากล เป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ ชุดผ้าไหมไทย ประกอบด้วย 4 องก์ ได้แก่ 1.พิพัสตราภรณ์แห่งดินแดนสยาม การเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยคณะรัฐมนตรีและตัวแทนรัฐบาลไทยจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ 2.เส้นสายลายภูษาสู่ภูมิปัญญาชาวสยาม เป็นการแสดงเดี่ยวระนาด พร้อมการแสดงใส่หน้ากากเต้น และการเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยเอกอัครราชทูต 40 ประเทศ 3.อลังการแห่งผ้าไหมไทย มีการแสดงกลองสะบัดชัย กลองศึก ระบำกลอง และเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยตัวแทนสถานทูต 33 ประเทศ และ4.สยามอาณาจักรแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น มีขบวนนางฟ้า และการเดินแฟชั่นโชว์ชุดผ้าไหมไทยโดยกงสุลกิตติมศักดิ์และผู้แทน 20 ประเทศ รวมทั้งมีการเดินแฟชั่นโชว์รอบฟินาเล่ โดยคณะนักร้องประสานเสียง MU CHOIR
นอกจากนี้ มีพิธีมอบรางวัลและจัดแสดงชุดผ้าไหมไทยที่ชนะการประกวด “The 5th Next Big Silk Designer Contest 2023” และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ CPOT ผ้าไหมจาก 17 ร้านค้า ระหว่างวันที่ 1 – 8 ก.ย. โดยจะมีพิธีมอบรางวัลในวันที่ 2 ก.ย.ที่ชั้น 2 SPHERE GALLERY ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ ทั้งนี้ สอบถามและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊กกระทรวงวัฒนธรรมและสายด่วนวัฒนธรรม 1765