เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ สน.หลักสอง นายสิตางศ์ุ บัวทอง เน็ตไอดอลคนดัง พร้อมทนายความ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กับพนักงานสอบสวน สน. หลักสอง หลังถูก นางวรรณา (สงวนนามสกุล) มารดาแท้ๆ ของ ตี๋น้อย ลูกบุญธรรม วัย 24 ปี ของ นายสิตางศุ์ แจ้งความดำเนินคดี เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากกรณีที่นายสิตางศุ์ ไปออกรายการ ‘ถกไม่เถียง’ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 โดยมีพูดพาดพิงว่า ตี๋น้อย บุตรบุญธรรม เล่าว่า ถูก แม่แท้ๆทำร้ายร่างกายตั้งแต่เด็ก ทำให้ นางวรรณา เสียหาย จึงแจ้งความดำเนินคดีกับนายสิตางศุ์
แม่แท้ๆเปิดศึกชิงลูกกับ “สิตางศุ์ บัวทอง” หมอแนะตรวจสุขภาพจิตหมดทุกคน
นายสิตางศุ์ และทนายความ เปิดเผยก่อนพบพนักงานสอบสวนว่า หลังได้รับหมายเรียกให้ มารับทราบข้อกล่าวหาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่า จะตกเป็นผู้ต้องหาได้ รู้สึกงงว่าชีวิตตนมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร พร้อมยืนยันจะยังคงให้การอุปถัมภ์ดูแลตี๋น้อยต่อไป แม้ว่านางวรรณาแม่แท้ๆ จะได้สิทธิ์ในการดูแลตี๋น้อยก็ตาม นอกจากนี้นายสิตางค์ยังฝากถึงนางวรรณา ด้วยว่า ขอให้ยุติการขยี้ลูกตัวเองเสียที และขอให้เด็กได้ใช้ชีวิตของตัวเอง รวมถึงครอบครัวด้วย ส่วนกรณีการจดทะเบียนบุตรบุญธรรม ได้พยายามทำมาแล้ว แต่ติดปัญหาสถานการณ์โรคระบาดจึงต้องชะลอไว้ก่อน รอสถานการณ์ดีขึ้นจะดำเนินการให้ถูกต้อง
ด้าน ตี๋น้อย ลูกบุญธรรมนายสิตางศุ์ ยืนยันว่า สิ่งที่ตนบอกกล่าวกับแม่สิตางศุ์ เป็นเรื่องจริง ไม่ได้กุขึ้นมา และเคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่ชายต่างมารดาทราบ พร้อมระบุอีกว่า อยากหลุดพ้นจากสภาพคนพิการ ขอใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปด้วยตนเอง ไม่ใช่ถูกควบคุมสั่งการจากใครอีก
ขณะที่ นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ กล่าวว่า เบื้องต้นวันนี้ลูกความจะรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมปฎิเสธข้อกล่าวหาและจะแจ้งความกลับในข้อหาเดียวกันกับคู่กรณี ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ คาดว่าต้องไปไกล่เกลี่ยในชั้นศาล สำหรับการรับบุตรบุญธรรมจะเตรียมการเอกสารและยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ ตี๋น้อย ตัวกลางของปัญหา ได้ไปยื่นถอนบัตรคนพิการแล้ว และสามารถตัดสินใจการเป็นบุตรบุญธรรมได้ด้วยตัวเองเพราะบรรลุนิติภาวะแล้ว