สำนักงานประประกันสังคม ให้การดูแลผู้ประกันตน แบ่งออกเป็น 3 มาตรา คือ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือผู้ประกันตนในระบบที่มีนายจ้าง มีการเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนทุกๆ เดือน เพื่อนำไปใช้จ่ายสำหรับสิทธิประโยชน์ ดังนี้ กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย กรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต กรณีสงเคราะห์บุตร กรณีการบำบัดทดแทนไต กรณีชราภาพ กรณีว่างงาน และ สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
สำหรับสิทธิในการรักษาโรคนั้น ครอบคลุมการรักษาทุกโรค โดยผู้ประกันตน เมื่อเจ็บป่วยก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ในโรงพยาบาล ตามที่สิทธิ์ ที่ได้แจ้งไว้ตั้งแต่แรก โดยไม่ต้องจ่าย หรือสำรองจ่าย แต่หากสถานพยาบาลตามสิทธิไม่สามารถให้การรักษาได้ ก็จะทำเรื่องส่งต่อให้กับผู้ประกันตน ไปรักษาที่โรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคมแห่งอื่น โดยในส่วนนี้ผู้ประกันก็เสียค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน ยกเว้น ผู้ประกันตนรอไม่ไหว แล้วไปรักษาโรงพยาบาลอื่นๆ เอวงนั้น ส่วนนี้ผู้ประกันตนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
ส่วนโรคและบริการที่ไม่มีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์ (กลุ่ม 8 โรคยกเว้น) ดังนี้ 1. การกระทำใดๆ เพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ 2.การรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างการค้นคว้า 3. การรักษาภาวะมีบุตรยาก 4. การตรวจใดๆที่เกินกว่าความจำเป็นในการรักษาโรคนั้น 5. การเปลี่ยนเพศ 6. การผสมเทียม 7. การบริการระหว่างรักษาตัวแบบพักฟื้น และ 8. แว่นตา
สิทธิประโยชน์ที่มีการสอบถามมากที่สุด ว่านอกจากสิทธิรักษาฟรีแล้ว ผู้ประกันตนมีสิทธิในการตรวจสุขภาพ คัดกรองโรคด้วยหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกันตนสามารถตรวจสุขภาพฟรีได้ 14 รายการ ประกอบด้วย
1. การคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test ในผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจทุกๆ 1 ครั้ง/ ปี
2. การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข และสอนการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ในกลุ่มอายุ 30-39 ปี ตรวจ ทุก 2 ปี ส่วนอายุ 40 ปี ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
3.การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์เพื่อคัดกรองความผิดปกติและค้นหาโรคทางสายตา พร้อมทั้งการตรวจ Snellen eye Chart และวัดความดันของเหลวภายในลูกตา ในคนอายุ 40-54 ปี ตรวจทุก 2 ปี อายุ 55 ปี ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
4.ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC อายุ 15-34 ปี ตรวจ 1 ครั้ง อายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
5. ปัสสาวะ UA อายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
6. น้ำตาลในเลือด FBS (Fasting Blood Sugar) อายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
7.การทำงานของไต Cr และ eGFR อายุ 35 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
8. ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total & HDL Cholesterol อายุ 20-34 ปี ตรวจทุก 5 ปี อายุ 35 ปี ตรวจ 1 ครั้ง/ปี
9. เชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAg ผู้ที่เกิดก่อน พ.ศ.2535 ตรวจได้ 1 ครั้ง
10. มะเร็งปากมดลูก Pap Smear อายุ 30 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 3 ปี
11.มะเร็งปากมดลูกวิธี Via อายุ 30-55 ปี ตรวจทุก 5 ปี (55 ปีขึ้นไปควรใช้วิธี Pap Smear เท่านั้น)
12. มะเร็งปากมดลูก HPV DNA Test อายุ 30 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 5 ปี
13. ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 1ครั้ง/ปี
14. การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest X-ray) อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 3 ปี
ทั้งนี้ มีโรงพยาบาลที่ให้บริการตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการ ทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th จากนั้นทำการติดต่อนัดหมายก่อนเข้ารับบริการต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง.