ทุกวันนี้ “สาธารณรัฐประชาชนจีน “ ได้ก้าวขึ้นมาเป็น “มหาอำนาจด้านเศรษฐกิจ”ในอันดับต้นๆของโลก และกำลังจะก้าวขึ้นสู่ ชาติมหาอำนาจ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
โดยปัจจุบันจีนกำลังแข่งขันทางเทคโนโลยีกับ ชาติมหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา อย่างเช้มข้นขึ้น เห็นได้จากที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน ได้ก้าวขึ้นประสบความสำเร็จในตลาดโลกไม่แพ้ บริษัทเทตของ “พญาอินทรี” อย่างสหรัฐฯ
ไม่ว่าจะเป็น Baidu (ไป่ตู้) , Alibaba (อาลีบาบา) และ Tencent (เทนเซ็นต์) TikTok (ติ๊กต็อก) และ HUAWEI (หัวเว่ย ) ต่าง ก็ประสบความสำเร็จ ในตลาดโลก รวมถึงเทคโนโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง โซเซียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ ปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) คลาว์ด ฝั่งสหรัฐอมริกา และยุโรป มีทางฝั่งจีนก็มีเช่นกัน!!
และปัจจุบัน บริษัทเทคจากจีน ก็มีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับ 100 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุดในโลกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจของจีนภายในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา!!
โดยสิ่งที่ทำให้จีนผงาดขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีก็คือนโยบายของรัฐบาลจีนในการส่งเสริมเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม จนขึ้นแท่น ‘มหาอำนาจด้านสิทธิบัตร’ ของโลก!!
หนึ่งในนโยบายที่มีส่วนผลักดันให้ประสบความสำเร็จ ก็คือการจัดตั้ง เขตพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคเทียนจินปินไห่ (Tianjin Binhai High-tech Industrial Development Area) หรือ “เขตไฮเทคเทียนจิน”
ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2531 โดยได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเทศบาลนครเทียนจิน และรัฐบาลประชาชนเทศบาลนครเทียนจิน นอกจากนั้นยังได้รับการอนุมัติจากคณะมุขมนตรีให้เป็นเขตพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคแห่งชาติแห่งแรก ๆ ของประเทศในปี 2534 และได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งเขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติในปี 2557
และในปัจจุบัน ระบบอุตสาหกรรมขั้นสูงที่เรียกว่า “113X” ได้ถูกพัฒนาขึ้นในเขตไฮเทคเทียนจิน โดยมีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่เป็นภาคส่วนหลัก และได้รับการสนับสนุนจากภาคบริการเศรษฐกิจใหม่ ชีวเภสัชภัณฑ์ พลังงานใหม่ และการผลิตอุปกรณ์ขั้นสูง
โดย เขตไฮเทคเทียนจิน ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในแง่ของตัวชี้วัดนวัตกรรมเทคโนโลยีหลัก ๆ โดยข้อได้เปรียบของการเป็นเขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติและเขตการค้าเสรี ตลอดจนการทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองเขต ได้ส่งผลให้เขตไฮเทคเทียนจินมีทรัพยากรด้านนวัตกรรมที่อุดมสมบูรณ์ มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาอิสระมากที่สุด และมีศักยภาพสูงสุดในการเติบโตทางเศรษฐกิจ
และขณะนี้ จีนกำลังมีความพยายามที่จะเปลี่ยนเขตไฮเทคเทียนจินให้เป็นเขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติเวอร์ชันอัปเกรด พร้อมกับสร้างเมืองแห่งนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำทางตอนเหนือของจีน
โดย เขตไฮเทคเทียนจินได้รวบรวมกลุ่มอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์ที่ประกอบด้วยบริษัทต่าง ๆ อาทิ Sugon, Phytium, Kylinsoft และ 360 เพื่อสร้างห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งระบบปฏิบัติการชิป ฐานข้อมูล และเซิร์ฟเวอร์ โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสามห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ฮาร์ดแวร์พื้นฐาน ซอฟต์แวร์ระบบ รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่และบริการที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังครอบคลุมถึงความปลอดภัยสารสนเทศและแอปพลิเคชันสำหรับทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม
“ภาคบริการเศรษฐกิจใหม่ในเขตไฮเทคเทียนจินประกอบด้วยบริษัทต่าง ๆ เช่น Cloudaccount, Douyin Group และ GoGoX ตลอดจนสถาบันต่าง ๆ เช่น ศูนย์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ศูนย์การเงินวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเทียนจิน ศูนย์นวัตกรรมระบบนิเวศคุนเผิงของบริษัทหัวเว่ย แพลตฟอร์มบริการนวัตกรรมและผู้ประกอบการเทียนจิน เป็นต้น”
ส่วนบภาคพลังงานใหม่ นำโดยบ ริษัท TCL Zhonghuan Renewable Energy Technology Co., Ltd. และ CETC โดยมีบริษัทแบตเตอรี่ เช่น LiShen, B&M Science and Technology และ Saidemei รวมถึงบริษัทพลังงานลม เช่น Mingyang, Siemens Gamesa และ National Wind Energy
ส่วนในภาคชีวเภสัชภัณฑ์ประกอบด้วยสถาบันต่าง ๆ เช่น Tianjin Institute of Pharmaceutical Research, Institute of Hematology of Chinese Academy of Medical Sciences, Peking Union Medical College Stem Cell Gene Engineering Co., Ltd., Juventas Cell Therapy, Jointown Pharmaceutical Group และ China Medico Corporation ขณะที่ภาคการผลิตอุปกรณ์ขั้นสูงนำโดยสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติจีน และสถาบันอากาศพลศาสตร์อวกาศแห่งชาติจีน
ขณะเดียวกัน เขตไฮเทคเทียนจินยังรวบรวมห่วงโซ่อุตสาหกรรมย่อยอุปกรณ์ทางทะเล ซึ่งนำโดยบริษัท China National Offshore Oil Corporation รวมถึงห่วงโซ่อุตสาหกรรมย่อยการขนส่งทางราง นำโดย Siemens Mobility และ Keyvia ไปจนถึงห่วงโซ่อุตสาหกรรมย่อยยานยนต์พลังงานใหม่และการผลิตอัจฉริยะ ซึ่งนำโดย Schneider Electric และ Tianjin Jinrong Tianyu Precision Machinery
เขตไฮเทคเทียนจินยังมองการณ์ไกลไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการสื่อสารควอนตัม บล็อกเชน เซมิคอนดักเตอร์รุ่นที่สาม ดิจิทัลทวิน และการพัฒนายาอัจฉริยะ เป็นต้น
การมีวิสัยทัศน์และการส่งเสริมอย่างจริงจังของรัฐบาล กำลังทำให้จีนก้าวสู่ผู้นำเทคโนโลยีของโลก!!
Cyber Daily