จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตบริเวณบ้านเลขที่ 21/201 หมู่บ้านคลองจั่นวิลล่า 4 ซอยรามคำแหง 142 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบศพนายสมบูรณ์ ทิพหา อายุ 66 ปี นอนเสียชีวิตใกล้กับประตูบ้าน ตามร่างกายมีบาดแผลถูกของมีคมแทงหลายแห่ง จึงสอบถามเพื่อนบ้านและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย ซึ่งทราบว่าฆาตรกรคือ นายหัทเมธ ทิพหา ซึ่งเป็นบุตรชายของนายสมบูรณ์ ผู้ตาย หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป กระทั่งตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือ โดยอ้างว่าเกรงว่าพ่อจะทำร้าย

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ต.ค. พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน พร้อมด้วยตำรวจ สน.บางชัน นำตัว นายหัทเมธ ลูกทรพีที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงพ่อแท้ๆ จนเสียชีวิตมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด โดยจุดแรก คือ ที่บ้านเลขที่ 21/201 หมู่บ้านคลองจั่นวิลล่า 4 ซอยรามคำแหง 142 แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดที่นายหัทเมธใช้มีดแทงพ่อของตัวเองเสียชีวิต

เมื่อมาถึงบริเวณหน้าบ้านดังกล่าว นายหัทเมธได้ปลดล็อกกุญแจที่ต้องใส่รหัส เนื่องจากจำรหัสได้ จากนั้น เข้าไปหยิบของใช้ส่วนตัวในบ้าน ก่อนมีปากเสียงกับนายสมบูรณ์ ทิพหา อายุ 66 ปี พ่อแท้ๆ ของตัวเอง ก่อนคว้ามีดของพ่อแล้วมีการยื้อยุดกันจนกระทั่งนายสมบูรณ์ถูกแทงเข้าที่บริเวณหน้าอก และตามร่างกายหลายแผลก่อนล้มลงเสียชีวิตจมกองเลือด จากนั้น นายหัทเมธได้นำมีดและร่มติดตัวออกมาจากบ้าน เมื่อมาถึงหน้าบ้านทำร่มตกจึงก้มเก็บแล้วเดินออกไปยังจุดที่ 2 ที่ร้านขายยาบริเวณปากซอยรามคำแหง 142 เพื่อซื้อหน้ากากอนามัย จำนวน 3 ชิ้น กับผ้าก๊อซปิดแผลจำนวนหนึ่ง เมื่อซื้อเสร็จแล้วได้เรียกรถแท็กซี่หลบหนีไป

ภายหลังทำแผนประกอบรับคำสารภาพเสร็จสิ้น ทางตำรวจได้คุมตัวนายหัทเมธกลับไปที่ สน.บางชัน โดยระหว่างนำตัวผู้ต้องหาเดินขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้ถามกับนายหัทเมธว่ามีอะไรจะพูดหรือไม่ แต่นายหัทเมธไม่ได้ตอบกลับแต่อย่างใด มีรายงานว่า ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) ทางตำรวจจะนำตัวนายหัทเมธไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรีต่อไป