ในยุคที่การจราจรในกรุงเทพมหานคร เป็นปัญหาหลักสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะถนนวิภาวดีรังสิตที่เคยเป็นเหมือน Super Highway หรือเทียบได้กับเส้นเลือดใหญ่ในร่างกายคน และผลจากการขยายตัวของเมือง ทำให้ปัจจุบันนี้สภาพการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิตติดขัดไม่ต่างจากถนนใจกลางเมืองส่งผลให้ผู้ใช้ถนนต้องเสียเวลาและทรัพยากรไปกับการเดินทางอย่างมากมาย ทางยกระดับดอนเมือง หรือ ดอนเมืองโทล์ลเวย์ เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเหมือนกับทำบายพาสเส้นเลือด ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยผลจากการศึกษาล่าสุดที่เปรียบเทียบการใช้ถนนวิภาวดีรังสิตกับทางยกระดับดอนเมืองเผยให้เห็นถึงประโยชน์ที่ชัดเจนในหลายด้าน ทั้งในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง ประหยัดเวลา ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความปลอดภัยในการสัญจร ที่สำคัญส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ใช้ถนนด้วย

ปัญหาการจราจรบนถนนวิภาวดี: ความท้าทายของผู้ใช้รถเดินทางไปทำงานและกลับบ้าน
ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีปริมาณจราจรเฉลี่ยมากกว่า 3 แสนคันต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น ผู้ขับขี่หลายคนต้องเผชิญกับการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าสลับหยุดนิ่ง (Stop and Go) ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความเครียดและเสียเวลา แต่ยังทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษมากขึ้น ซึ่งทางยกระดับดอนเมือง ช่วยแบ่งเบาการจราจรได้มากกว่าวันละ 1 แสนเที่ยว

ปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกขึ้นทางด่วน: การประหยัดเวลาและเชื้อเพลิง
ผลการศึกษาเปรียบเทียบการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และการปล่อยมลพิษระหว่างการใช้ทางยกระดับดอนเมืองและถนนวิภาวดีรังสิตพื้นราบ ที่ได้รับการรับรองและตีพิมพ์จากที่ประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่งชาติ ครั้งที่ 28 โดยวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สรุปได้ว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน การขึ้นทางยกระดับดอนเมืองช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดเวลาเดินทางได้ถึง 55-60% เมื่อเทียบกับถนนวิภาวดีรังสิต โดยเฉลี่ย 30 นาทีต่อเที่ยวในช่วงเช้าและ 45 นาทีต่อเที่ยวในช่วงเย็น และการเดินทางถึงที่หมายเร็วขึ้นช่วยลดความเครียดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากการประหยัดเวลาแล้ว ทางยกระดับดอนเมืองยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าถนนวิภาวดีรังสิตอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น การใช้ทางยกระดับในช่วงเร่งด่วนเช้า ใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่าถนนพื้นราบ 0.10 ลิตร หรือประมาณ 4% ต่อเที่ยว และในช่วงเวลาเร่งด่วนเย็นขาออกเมือง เชื้อเพลิงที่ใช้บนทางยกระดับดอนเมืองน้อยกว่าถึง 0.41 ลิตร หรือประมาณ 13% ต่อเที่ยว ทำให้การใช้ทางยกระดับดอนเมืองเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่าย

ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประโยชน์อีกด้านที่คุณได้
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากยานพาหนะเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม งานวิจัยนี้พบว่า การเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น บนถนนวิภาวดีรังสิตเทียบกับทางยกระดับดอนเมือง จะปล่อยมลพิษอย่าง ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) มากกว่า 30% ถึง 58 % และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มากกว่า 4% ถึง 13% การใช้ทางยกระดับดอนเมืองที่การจราจรคล่องตัวมากกว่าจึงช่วยลดมลพิษและส่งเสริมคุณภาพอากาศที่ดีกว่าในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผ่านทางด้วย Easy Pass หรือ M Pass ที่ไม่ต้องจอดเพื่อหยุดชำระค่าบริการหน้าด่าน ทำให้การปล่อยมลพิษน้อยลงไปอีก

ความปลอดภัยจากอุบัติเหตุจราจร ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
งานศึกษาวิจัยนี้ ยังชี้ให้เห็นว่าการขับบนทางยกระดับดอนเมืองมีความเสี่ยงจากอุบัติเหตุน้อยกว่าขับขี่บนถนนวิภาวดีรังสิตถึง 15% เนื่องจากมีการออกแบบควบคุมทางเข้าออกตามมาตรฐาน กระแสจราจรคล่องตัว ใช้ความเร็วได้คงที่ และสภาพถนนได้มาตรฐานการจราจรที่ดีกว่า จึงช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ทางยกระดับดอนเมืองยังมีระบบตรวจการณ์และกู้ภัยที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สุดท้ายสิ่งที่ตัวคุณได้รับคือสุขภาพกาย สุขภาพจิตและเวลากับครอบครัว
การขับขี่ท่ามกลางจราจรที่ติดขัดเป็นประจำ ไม่เพียงแค่ทำให้เสียเวลา แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ขับขี่ ความเครียดสะสมจากการขับขี่ที่ต้องแย่งชิง หลบหลีกและเบียเสียด ล้วนส่งผลต่อร่างกายผู้ขับแบบไม่รู้ตัว หากต้องเลือกเดินทางเป็นประจำ การใช้ทางยกระดับดอนเมืองไม่ได้เพียงแค่ช่วยประหยัดเวลาและพลังงานเท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่อีกด้วย การลดระยะเวลาการเดินทางทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีเวลาว่างมากขึ้นในการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ตนเองชื่นชอบ ลดความเครียดจากการเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดนานๆ ซึ่งมีข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตสนับสนุนว่า คนที่เดินทางในสภาพจราจรติดขัดมักมีระดับความเครียดสูงกว่าคนที่เดินทางในสภาพที่จราจรคล่องตัวถึง 40% และคนในกรุงเทพมหานครใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเพียง 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น

สรุป
การใช้ทางยกระดับดอนเมืองสามารถช่วยลดเวลาการเดินทางลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ถนนมีเวลามากขึ้นในการอยู่กับครอบครัว และช่วยลดความเครียดที่เกิดจากการเดินทางยาวนานในแต่ละวัน ทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้นและสมดุลมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ทางยกระดับดอนเมืองยังมอบความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับเส้นทางสายหลักอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานคร ทำให้ผู้เดินทางสามารถเดินทางไปยังที่หมายได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขับรถผ่านถนนที่มีการจราจรหนาแน่นในช่วงเวลาที่มีการจราจรสูงสุด

ด้วยประโยชน์ที่มากมายเหล่านี้ ทางยกระดับดอนเมืองจึงถือเป็นทางเลือกการเดินทางที่ไม่เพียงแค่ประหยัดพลังงานและเวลาเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ใช้ทางในระยะยาวอย่างยั่งยืน การเลือกใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในทุกมิติ ทั้งสำหรับผู้ขับขี่และสังคมโดยรวม