จัดเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่หลายคนจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับ อเล็กซ์ เรนเดลล์ นักแสดงหนุ่มสายรักธรรมชาติ ซึ่งหนุ่มอเล็กซ์ได้คบหาดูใจกับ เจนนี่ แฟนสาวนอกวงการมาระยะหนึ่ง โดยทั้งคู่นั้นมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เหมือนกัน จะเห็นได้ว่าในหลายๆ ทริปของหนุ่มอเล็กซ์จะมีสาวเจนนี่เคียงข้างอยู่เสมอนั่นเอง โดยล่าสุดหนุ่มอเล็กซ์ได้โพสต์อวดโมเมนต์สุดฟิน ประกาศขอ เจนนี่ แฟนสาวแต่งงาน

ล่าสุดในรายการ คุยแซ่บShow อเล็กซ์ เรนเดล ได้เปิดใจเล่าวินาทีขอแฟนสาวนอกวงการแต่งงาน เผยเส้นทางความรักกว่า 7 ปีที่พัฒนาจากเพื่อนสู่แฟน พร้อมอัปเดตแพลนในอนาคต โดยอเล็กซ์เผยว่า

“ผมรู้จักเจนนี่มานานพอสมควรแล้ว ผมเป็นเด็กบางกอกพัฒนา เขาจะเป็นเด็ก ISB ตั้งแต่สมัยเรียน 2 โรงเรียนนี้ก็จะมีการแข่งขันด้วยกัน ก็จะเป็นเพื่อนกันทุกวันนี้ก็จะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน พอตอนโตไปเห็นรูปใน IG ก่อนแล้วช่วงนั้นเขาโสดด้วย มันเป็นรูปที่เขาอยู่อยู่ในสระว่ายน้ำแต่ตัวเขาไม่เปียก เราก็มองแล้วก็งงว่าทำไมตัวไม่เปียก อันนี้คือจุดแรก เราก็เลยลองกดเข้าไปดูคนนี้น่าสนใจเลยกดไลค์รัวๆหลายๆรูป แล้วก็ไปดูว่าเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที วันแรกที่เจอ ผมยังไม่ได้มีเจตนาอะไรมากขนาดนั้น แล้วก็ไปกับเพื่อนผู้ชายด้วย เวลาเราไปกับเพื่อนผู้ชายจะเป็นโหมดกวนๆสนุกๆหน่อย แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรถึงขนาดนั้น แต่พอเริ่มคุย เราก็ยังไม่เคยคบกับผู้หญิงแบบนี้ เขาจะดูแมนๆ ตรงไปตรงมา เลยขอแลกไลน์กับเขาจากนั้นก็เจอกันแล้วก็เจอกันบ่อยขึ้นๆ”

“ความต่างระหว่างคบคนในวงการกับนอกวงการ ผมว่าต่าง ถ้าเราเป็นคนในวงการทั้งสองคนไม่ว่าเราจะไปไหนความสปอตไลท์มันมาโดยอัตโนมัติจะเป็นแฟนคลับของฝั่งผู้ชายหรือของผู้หญิงต้องมีอยู่บ้าง แต่พอเป็น 2 คนแล้วจะมีรีแอ็คอีกแบบนึง มันจะเป็นอีกแบบนึง คนนี้คือใครมากับใคร คนจะไม่ได้เข้ามาหาเราขนาดนั้น มันก็จะได้พื้นที่ส่วนตัวที่รู้สึกว่าเป็นข้อดี ผมไม่ได้ถึงกับตั้งใจปิด บางทีมีพี่ๆนักข่าวถาม เราก็ตอบว่ามีคนคุยอยู่มาตั้งแต่แรกแล้ว เราก็พยายามจะให้ข้อมูลที่น้อยที่สุดด้วย อย่างเช่นตัวเลข 7 ปีก็ไม่เคยบอก เพิ่งมาบอก ก่อนหน้านี้เรารู้สึกว่าถ้าเราให้อะไรไปที่เป็นข้อมูลชัดเจน มันจะเป็นประเด็นได้ เราพยายามตอบแบบกลางๆ ให้หลีกเลี่ยงพวกข้อเท็จจริงทั้งหลาย เขาจะได้ไม่มีอะไรไปเขียนได้ พอทำแบบนั้นความเป็นส่วนตัวมันก็มากขึ้น หลังๆพี่นักข่าวเขาก็จะไม่ถามลึก ส่วนเรื่องรูปเราก็ลงบ้าง ด้วยงานของเราที่มันอยู่กับโทรศัพท์เยอะ ต้องเช็คโน่นเช็คนี่เยอะเวลาอยู่กับเขาจะเป็นโหมดพักผ่อน จะไม่ได้จับโทรศัพท์เท่าไหร่ เลยไม่ได้ลงมากขนาดนั้น รู้สึกอยากลงค่อยลง ทั้งคู่ไม่ได้มีนิสัยอัพเดทชีวิตผ่านโซเชียลทุกวัน”

“ไปขอแต่งงงานที่เลคหลุยส์ แคนาดา เราก็ไปพักกันที่นี่พอจัดงานแต่งพี่สาวเสร็จ เราก็ไปเที่ยวกันสองคนเลยคิดว่าด้วยจังหวะอะไรหลายๆอย่างเป็นจังหวะที่ดี เรื่องแหวนเรื่องอะไรเป็นเรื่องใหม่มาก เกรดของแหวน ไซส์ของแหวน ไซส์เพื่อนแอบลองให้มาหลายปีแล้ว แอบได้ไซส์มา ขบวนการเอาไปแคนาดาก็ไม่ได้ง่าย เราบินไปต่างหาก เราฝากแหวนแม่ไปก่อน พอเราบินไปผมใส่ไว้ในกระเป๋าสูทกับตัวเองตลอด โมเมนท์ที่กลัวมากที่สุดคือตอนเราไปสนามบินแล้วเราต้องถอดเสื้อแล้วเข้าไปในนั้น มันจะหายมั้ย พอไปถึงปุ๊ปเขาตื๊ดๆขึ้นมาอันนี้คืออะไร แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แล้วก็ไม่อยากใส่กล่องเพราะมีคนทักมาว่าเดี๋ยวเขาจะรู้ เราก็คิดในใจว่าเราเอาวิวที่สุด เราเอาฟีลลิ่งที่สุด เราก็คิดว่าใน 4 วันนี้ต้องขอจะวันไหนยังไม่รู้ ไม่ได้คิดว่าจะพูดอะไรให้มันเป็นฟีลลิ่งล้วนๆ ให้เป็นโมเมนท์ที่ดีล้วนๆ ถ้าเอาช่างภาพมามันจะระแวงความเซ็ต วันสุดท้ายก็ขึ้นเรือไปเป็นเรือพายตอนประมาณ ตี 5 ครึ่ง แล้วก็นั่งห่างกันเหลือเกิน เขาก็นั่งนู่น จะขยับไปข้างหน้าเรือก็โยกแถมใส่เสื้อชูชีพอีก ชูชีพสีแดงแป๊ดเลย นึกในใจว่าเราจะถ่ายรูปแต่งงานกันโดยมีเสื้อชูชีพไม่ได้นะ เลยบอกเขาว่าถ่ายเซลฟี่กันหน่อยมั้ยถอดชูชีพรูปจะได้สวยๆ แล้วโมเมนท์นั้นก็มาด้วยตัวของมันเอง อันนี้คือขากลับแล้ว เราก็เห็นแล้วว่านั่งท่องเที่ยวที่นี่ก็เริ่มมา ถ้าเราไปขอบนบกทุกคนก็จะปรบมือเพราะผมเคยเห็นผมเคยไปเวนิสผมเคยเห็นทุกคนปรบมือ มันจะเขินไปหมด พอกลับมาคิดแล้วก็คิดว่าตัดสินใจถูกไม่ได้วางแผนเอาแบบเฟรชๆเลย เราก็พูดออกมาตามที่คิดตอนนั้นเลย ก็พูดออกมา เขาก็งง แล้วก็ตกลงกัน ไม่ได้มีคำพูดอะไร ตอนหลังเขามาบอกผมว่า นึกว่าจะมีสปีชพูดยาวๆ ผมว่ามันเป็นโมเมนท์ที่เขาบอกผมมาตั้งนานแล้วว่าเขาอยากได้เซอร์ไพร์ส แต่พอเขาโดนเซอร์ไพร์สจริงๆเขาก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน มันไม่ได้มีคำพูดหวานอะไรขนาดนั้น ลองสวมแหวนแล้วก็ลุ้นแทบตาย ปรากฎว่าหลวม(หัวเราะ) เขาก็งงเพราะว่าจริงๆเราคุยกันไว้แล้วว่ากลับจากทริปนี้เดี๋ยวจะเริ่มคุยกัน มันเป็นแผนที่เราวางเอาไว้ว่าเพื่อให้เขาไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นบนทริปนี้ “

“แพลนแต่งงานมกราคมช่วงกลางๆเดือน ตอนนี้กำลังสรุปรายละเอียดที่แน่ชัดอยู่ ด้วยความที่ทุกอย่างบีบนิดนึงช่วงนี้ จริงๆเรื่องรายละเอียดของงานคิดว่าทางแฟนน่าจะมีภาพในใจที่ชัดเจนกว่าเรา ผมจะดูแลเรื่องเพื่อนเจ้าบ่าวจะเที่ยวที่ไหนดี ใส่ชุดอะไรดี ตอนนี้ชุดเยอะมาก ชุดพ่อชุดพี่ชาย เสาร์อาทิตย์เราก็จะไปเป็นครอบครัววัดโน่นวัดนี่ ก็สนุกสนานน่าตื่นเต้นดี พอมานั่งลิสต์แขกที่เราเชิญมา รู้สึกดีใจที่จะได้เจอกับทุกคนที่เราอาจจะไม่ได้เจอกันนาน แล้วก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เราเป็นเรา วันนี้เราอาจจะไม่ได้คุยกับเขามานานแล้ว แล้วเราจะได้ถือโอกาสนี้เข้าไปเอาการ์ดไปให้เขา ได้ชวนเขามา รู้สึกดีใจที่จะได้กลุ่มเพื่อน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานแต่งงานตื่นเต้นมาก ของผมมีอย่างเดียวเลยคือพิธีรดน้ำสังข์ ผมไปงานแต่งแล้วรู้สึกว่าเวลาที่เพื่อนหรือผู้ใหญ่มารดน้ำสังข์ได้พูดอะไรนิดๆหน่อยๆ มันเป็นโมเมนท์ที่ซึ้ง ด้วยความที่เราไปเชิญผู้ใหญ่หลายๆท่านที่เรากำลังจะไปชวนแล้วเราไม่มีเวลาดูแลทุกๆคน นี่เป็นโมเมนต์เดียวที่จะได้มองตากับเพื่อนจริงๆ ก็เลยขอแค่นี้ ไม่ได้เยอะเป็นร้อยๆคนแต่เฉพาะคนที่มางานหมั้นในตอนเช้า

“(จัดงานแต่งกี่ที่ ?)ตอนนี้แน่ๆที่กรุงเทพฯแต่พอมาดูแขกก็เลยคิดว่าอาจจะหาอีกทีที่ไม่ถึง 50 คน ที่เราจะจัดเฉพาะแค่เพื่อนเจ้าบ่าว เจ้าสาว ครอบครัว แต่ว่ายังไม่รู้รายละเอียดจะเป็นยังไง ก็หนึ่งในแผนแน่นอนด้วยอายุของผมกับเขาพอเรามาคำนวนดูแล้ว สมมติเรามีวันนี้เลยกว่าเขาจะเรียนจบเราก็ 60 กว่าแล้ว เราทำค่ายมาเราเห็นโมเมนต์ผู้ปกครองกับเด็กเราอยากมีโมเมนต์แบบนี้ เราอยากมีแรง ไม่ใช่กลับมาเหนื่อยๆแล้วไม่มีแรง เราอยากจะใช้เอเนอจี้กับเขาได้ ก็รีบ แต่ก็ยังไม่ได้วางไทม์ไลน์อะไรขนาดนั้น จริงๆคิดว่าอยากมีซัก 2 กำลังดี ผู้หญิงคนนึง ผู้ชายคนนึง มีมากกว่านั้นก็ได้ แต่อยากมีมากกว่าหนึ่ง ในส่วนของงานละคร ก็ยังอยากแสดงยังอยากเล่นอยู่ แต่ว่าด้วยชีวิตของเรามันเปลี่ยนไปเยอะมาก เพราะช่วงโควิดเราทำองค์กรด้วย พอเปิดโควิดมามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทำให้อะไรหลายๆอย่างในองค์กรมันหนักกว่าเดิม มีอะไรที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าเดิม ต้องดูแลคนมากกว่าเดิม ช่วงนั้นเล่นละครไปด้วยทำงานไปด้วยรู้สึกว่ามันไม่ได้ดีซักอย่างเลย ตรงนี้ไม่มีเราก็ไปต่อไม่ได้ มันถึงจุดที่เราอยากจะเลือกเล่นมากกว่าเดิมด้วย ไม่ได้รับมา 2 ปีแล้ว”

ขอบคุณภาพประกอบจาก:รายการคุยแซ่บShow,alexrendell