เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ที่ 3 บ้านมดตะนอย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง วันนี้มีหลายหน่วยงานลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านกว่า 100 คน ที่ประสบปัญหาคลื่นสูง 3-4 เมตร ซัดบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลังจำนวน 8 หลัง และพังเสียหายบางส่วนจำนวน 7 หลังรวม 15 หลัง โดยมีเรือประมงจมลงทะเลอีก 10 ลำ
ซึ่งวันนี้ที่บ้านหมดตะนอย พบว่ายังคงมีคลื่นสูง 3-4 เมตร ซัดเข้าหาฝั่ง ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านที่พังเสียหาย บางส่วนเริ่มแตกร้าว ห้องครัวทรุดและมีน้ำทะเลซัดจากหลังบ้านไหลลงหน้าบ้านต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ทำให้เจ้าของบ้านบางรายถึงกับหลั่งน้ำตา และยืนมองบ้านของตัวเองค่อยๆ ทรุดลงทะเลไปต่อหน้าต่อตา
โดยชาวบ้านบางคนไปกู้เงินธนาคารกว่า 4 แสนบาท เพื่อมาสร้างบ้านอยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูกและญาติพี่น้อง แต่อยู่ได้ไม่ถึง 2 ปี บ้านก็ถูกคลื่นซัดจนเกือบจะจมลงทะเลภายในเวลา 2 วัน นับเป็นเหตุการณ์พายุคลื่นลมแรงหนักสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ด้านนายอับดลรอหีม ขุนรักษา กำนันตำบลเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดของหมู่ที่ 5 บ้านหลังเขามีเรือจมจากคลื่นซัดไปจำนวน 7 ลำ หมู่ที่ 4 จำนวน 1 ลำและหมู่ที่ 2 อีก 2 ลำ มีน้ำทะเลหนุนประมาณ 10 หลัง ไม่รวมพายุ ที่มีน้ำทะเลหนุนสูงมีบ้านมดตะนอย ประมาณ 15 หลัง เสียหายทั้งหลังเกือบ 10 หลัง ซึ่งวันนี้คลื่นกำลงแรงอยู่เพราะวันนี้ 2 ค่ำ น้ำขึ้นเยอะจึงกลัวว่าจะเสียหายมากไปกว่านี้
ซึ่งจากพยากรณ์อากาศพบว่าน้ำทะเลก็ยังหนุนสูงอยู่ โดยน้ำทะเล 2 ค่ำและ 3 ค่ำจะทำให้น้ำทะเลหนุนสูง หลังจากนั้นน้ำก็จะเริ่มลดลงเรื่อยๆ แต่มีพายุเข้าต่อ ทำให้บ้านจะพังอยู่แล้วจะโดนซ้ำเข้ามาอีก โดยมีบ้านที่จ่อจะพังเสียหายเพิ่มอีก 2 หมู่บ้านคือที่หมู่ 2 และหมู่ 3 อีก 2-3 หลัง
ขณะที่ น.ส.รัตติยา ติ่งเก็บ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านที่ยืนมองดูบ้านที่กำลังจะจมทะเล กล่าวว่า ปีที่แล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะรุนแรงถึงขนาดนี้ ซึ่งเมื่อก่อนที่ดินยาวไปจนถึงชายหาด พอปีนี้กัดเซาะมาเร็วมาก ทั้งคลื่นใหญ่และลมแรง อยากให้มีหน่วยงานช่วยสร้างที่อยู่อาศัย เพราะหลังนี้อยู่กัน 3 ครัวเรือน รวม 10 คน ไร้ที่อยู่อาศัยแล้ว หลังจากนี้ลำบากแน่นอน เพราะบ้านหลังนี้สร้างไป 4 แสนกว่า ไม่คิดว่ามันจะมีแบบนี้ ดูข่าวจากที่อื่นดูแล้วสะอื้นใจ แต่มาพบกับตัวเองแล้วใจหายเลย เพราะบ้านกว่าจะยกมาแต่ละหลังลำบากมาก จึงฝากชีวิตไว้ว่าจะตายที่บ้านหลังนี้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้.