สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการที่อิสราเอลสังหารนายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ “คือการคืนความยุติธรรม” ให้กับชาวเลบานอน ชาวอิสราเอล และชาวอเมริกัน ตลอดจนประชาชนของอีกหลายประเทศ ที่ต้องเสียชีวิตเพราะกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐยืนยันความสนับสนุนของรัฐบาลวอชิงตันที่มีต่ออิสราเอล “เพื่อการป้องกันตนเอง” แต่เน้นย้ำ ความจำเป็นขั้นสูงสุดของการเดินหน้าเจรจา เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงครั้งใหม่ในฉนวนกาซา ซึ่งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กับกลุ่มฮามาสเป็นพันธมิตรกัน
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า “มีความวิตกกังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในเลบานอน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และเรียกร้องคู่กรณีทุกฝ่ายถอยห่างจากการใช้ความรุนแรง เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้
นายฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รมว.การต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวระหว่างการพบหารือกับนายนาจิบ มิกาตี นายกรัฐมนตรีเลบานอน นอกรอบการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ ว่าอิสราเอลต้องยุติการโจมตีเป้าหมายในเลบานอน “ทันที” ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสเรียกร้องกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิหร่าน “งดการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ” ซึ่งมีแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคทวีความรุนแรง.
เครดิตภาพ : AFP