กลายเป็นข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในวงการเกม VALORANT ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และยังเป็นที่พูดถึงในวันนี้ หลังจากทาง Riot Games ได้ออกแถลงการณ์ถอดทีม BLEED Esports ออกจากการแข่งขัน VCT Pacific League เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้
ก่อนหน้านี้ ผู้เล่นชาวไทยนามว่า sScary ที่มีสถานะเป็นผู้เล่น Inactive ในทีม BLEED เคยมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ VCT Ascension Pacific 2023 ทำให้ทีมได้ไปเล่นในรายการ Pacific League ต่อ แต่หลังจากนั้น ผลงานตลอดทั้งปี 2024 ก็กลับไม่เป็นไปตามที่พวกเขาคาดหวังไว้ ในขณะที่พวกเขาก็มีการเฟ้นหาผู้เล่นหน้าใหม่มาเสริมทัพอย่างต่อเนื่องก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น
แล้วพวกเขาก็ต้องพบกับความลำบากยิ่งขึ้น! หลังจากที่ทาง Riot Games ได้ประกาศเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการถอดพวกเขาออกจากลีก ซึ่งถือเป็น ‘โทษสถานหนัก’ หลังจากที่พวกเขาไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญา ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้สโมสรที่คว้าอันดับ 2 ในรายการ VCT Ascension Pacific 2024 อย่าง BOOM Esports จากอินโดนีเซีย ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกที่กำลังจะมาในปี 2025 แทน!
หลังจากที่ทาง Riot Games ออกประกาศอย่างเป็นทางการ ทาง BLEED Esports ก็ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการตัดสินในครั้งนี้ พร้อมระบุไว้ว่า “เรา (BLEED) ผิดหวังอย่างมากกับบทสรุปนี้ แต่เราเคารพการตัดสินใจของ Riot Games และจะให้ความร่วมมือในกระบวนการนี้ทุกขั้นตอน”
“ในช่วงปีที่ผ่านมา (2023) เราได้ติดต่อกับทาง Riot Games อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อผิดพลาด ภายใต้ข้อกำหนด Team Participation Agreement (TPA) แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ในระดับที่พึงพอใจ และพวกเขาได้ตัดสินใจยุติการมีส่วนร่วมของเราใน VCT Pacific”
“พวกเราจะใช้เวลาในการจัดการและประเมินเกี่ยวกับบทบาทของเราต่อการแข่งขันในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน พวกเราจะยังคงดูแลนักกีฬา และทีมงานในสังกัดเกม VALORANT ของพวกเราภายใต้สถานการณ์นี้ หลังจากที่พวกเรายังมีสิทธิในการแข่งขันรายการ Challengers อยู่”
อย่างไรก็ดี ทาง sScary (“พล” ณัชพล มาตราช) ผู้เล่นชาวไทยหนึ่งเดียวของสโมสร BLEED Esports ก็ได้ออกมาประกาศหาทีมใหม่ เพื่อหาโอกาสในการไปแข่งขันในระดับสูงต่อไป โดยเขาได้โพสต์ผ่านทาง X อย่างเป็นทางการของเขาไว้ว่า “ผมกำลังมองหาทีม”
“สวัสดีครับ ผมชื่อ sScary อดีตผู้เล่นมืออาชีพของ BLEED Esports ผมกำลังมองหาทีมใหม่ที่จะเข้าร่วม โดยเน้นที่ทีมที่ใช้การสื่อสารภาษาอังกฤษในลีกที่มีการแข่งขันสูง ผมมีประสบการณ์มากกว่า 4 ปีในการเล่นตำแหน่ง Controller และยืดหยุ่นไปเล่นตำแหน่ง Sentinel ได้เช่นกัน” พร้อมกับแปะลิงก์ประวัติผลงานของเขาไว้ใน Liquipedia และ ให้ทีมที่สนใจสามารถติดต่อไปที่ช่อง X ของเขาได้เลย!
ทั้งหมดนี้ ก็คือข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทีม BLEED Esports กับทาง Riot Games ผู้จัดรายการแข่งขันเกม VALORANT ระดับโลก ทำให้ในปัจจุบัน เส้นทางของ BLEED ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่าเส้นทางของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อ ในขณะที่ BOOM Esports ก็จะได้ขึ้นลีกแทนพวกเขา แล้วพวกเขาก็อาจต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง sScary ไปอีกด้วย!
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก: Riot Games, sScary, BLEED Esports