ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจและจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีธุรกิจดังที่ปรากฏภาพ และชื่อดารานักแสดงดัง เป็นทั้งพรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งมีชื่อเป็นผู้บริหารในบริษัท ก่อนจะมีประเด็น หลังผู้เสียหายออกมาเปิดเผยว่า ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน สูญเสียเงินไปมากมาย แต่กลับไม่ได้ผลตอบแทนอย่างที่สัญญาไว้ จนมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับทางตำรวจหลายร้อยราย
โดยหนึ่งในพรีเซ็นเตอร์ที่กำลังมีประเด็นคือพระเอกหนุ่ม “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ซึ่งปรากฏภาพเป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัทดัง โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ตนเป็นแค่ “พรีเซ็นเตอร์สินค้า” เท่านั้น ไม่ได้มีตำแหน่งบริหารใดๆ ในดิไอคอนกรุ๊ป
ความคืบหน้าล่าสุด “บอย ปกรณ์” ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. กรณีเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทดัง โดยระหว่างที่ บอย ปกรณ์ ลงมาบริเวณด้านหน้าอาคาร เจ้าตัวได้มุ่งตรงไปที่ผู้เสียหาย ที่กำลังนั่งรอคิวเข้าแจ้งความ ก่อนที่จะยกมือไหว้พร้อมกล่าวคำขอโทษ และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าของคดี และความรู้สึกหลังจากได้ชม “บอสดัง” ออกกรายการโหนกระแส โดยบอยเผยว่า
“ได้ดูบ้างเมื่อกี้ แต่ไม่ได้ดูเยอะเท่าไหร่ เพราะติดให้ปากคำ ความจริงแล้วผมไม่อยากพูดอะไรในส่วนของเขาเยอะขนาดนั้น เราไม่สามารถล่วงรู้ข้างในของเขาได้ว่าสิ่งที่เขาพูดจริงหรือไม่จริง หรือเกิดจากใจจริงข้างในของเขาหรือเปล่า ตั้งแต่เกิดเรื่องมายังไม่มีคนของบริษัทติดต่อมาเลย จากการที่ดูรายการคิดว่าเป็นแอคติ้งหรือความรู้สึกจริงๆ พอจะประเมินได้ไหม อันนี้ผมไม่พูดดีกว่า แต่ผมว่าให้ประชาชนทุกคนตัดสินเองดีกว่า ยืนยันว่าไม่ได้คุยกับพรีเซ็นเตอร์คนอื่นๆ เลยครับ ณ ตอนนี้ผมเชื่อว่ามีหลายท่านที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม คือทำไปโดยที่ไม่ได้ทราบจริงๆ ไม่มีเจตนาจริงๆ ตรงนี้ผมก็คิดว่าถ้าทุกคนได้ออกมาชี้แจงข้อมูล มันน่าจะเป็นประโยชน์กับทางตำรวจ และที่สำคัญที่สุด จะเป็นประโยชน์กับผู้เสียหายด้วย ผมว่าตรงนี้ให้ออกมาตามกระบวนการดีกว่า เจอแบบนี้พูดตรงๆ ว่าเข็ดกันทุกคนอยู่แล้ว ต่อให้เราเช็กแล้วมันพลาด ก็เป็นบทเรียนที่ทำให้ครั้งต่อไปเราต้องละเอียดมากกว่านี้”
“ความสัมพันธ์กับบอสที่เหลือจะตัดขาดเลยไหม อันนี้ผมขออนุญาตในส่วนของดารานักแสดง ผมขอไม่ไปก้าวล่วง เพราะตรงนั้นผมว่าทุกท่านต้องไปพิสูจน์กระบวนการตามกฎหมาย แต่ในส่วนของคนที่เป็นบอสที่เป็นคนของบริษัท ผมเพิ่งจะมารู้ว่าทุกท่านทำอะไรไว้ เพราะฉะนั้นทำอะไรไว้ ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำมันสบายอยู่บนความเดือดร้อนของคนอื่น ไม่มีอะไรที่จะพูดกับเขา แต่อย่ามารู้จักกันเลย ที่ผ่านมาเราอาจจะได้เจอกันตามงานบ้าง ตามข้างนอกโดยบังเอิญบ้าง หรืออะไรก็ตาม แต่ต่อจากนี้เราอย่ามายุ่งเกี่ยวอะไรกันอีกเลย”
ขอบคุณภาพประกอบจาก:boy_pakorn