เมื่อวันที่ 17 ต.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีระเบียบคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการมอบอำนาจให้ศึกษาธิการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน พ.ศ. 2567 ว่า ระเบียบฉบับดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีคำสั่งตามระเบียบมานานแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสื่อสารทำความเข้าใจให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือองค์กรครูในกลุ่มต่างๆ แล้ว โดยทุกฝ่ายมีความเข้าใจที่ตรงกันแล้ว ดังนั้นขอย้ำอีกครั้งว่าภารกิจด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ยังอยู่กับคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ประจำเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ซึ่งเมื่อโอนภารกิจมาอยู่ที่เขตพื้นที่แล้วจะไม่มีการหมุนกลับไปแบบเดิมอย่างแน่นอน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้การออกระเบียบเกณฑ์ดังกล่าวนั้น ต้องการให้เกิดการบูรณการในการปฏิบัติงาน เพราะการปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ ยังต่างคนต่างทำงานกันอยู่ ดังนั้นคิดว่าจะต้องมีศูนย์กลางในการเชื่อมโยงประสานงานและภารกิจต่างๆ ของทุกหน่วยงานในพื้นที่การศึกษา ซึ่งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ก็จะทำหน้าที่เชื่อมมิติการทำงานให้เป็นแนวทางเดียวกันมากขึ้น โดยหลักเกณฑ์และวิธีการมอบอำนาจให้ศึกษาธิการจังหวัดปฏิบัติราชการแทนนั้น ก็จะเป็นเฉพาะงานด้านวิชาการ การพัฒนาผู้เรียน เรื่องการศึกษาปฐมวัย หรือการตรวจติดตามภารกิจอื่นๆทีเกี่ยวข้อง รวมถึงบางหน่วยงานที่ไม่มีหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ เช่น คุรุสภา หรือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) เป็นต้น ซึ่งภารกิจงานด้านบุคคลจะทำไม่ได้ เพราะอำนาจอยู่ที่เขตพื้นที่อยู่แล้ว