เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิศษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. ร่วมกันให้สัมภาษณ์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระยะเวลา 2 ชม. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงของสำนวนคดี และการดำเนินการของตำรวจทั้งหมด เพื่อส่งมอบให้ดีเอสไอรับไปดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 นั้น
ร.ต.อ.วิษณุ เปิดเผยว่า ส่วนแม่ทีม 5 รายที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายของบอสพอล จะเข้ามายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้ดีเอสไอเปลี่ยนสถานะจากผู้เสียหายเป็นผู้ต้องหานั้น คงต้องขอดูข้อเท็จจริงก่อนว่ามีประโยชน์ตรงไหน หรือมีพฤติการณ์ที่เราจะใช้มาเป็นพยานหลักฐานในคดีได้หรือไม่ อะไรที่ส่งมาแล้วเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เรายินดี แต่ก็ต้องสอดรับกับหลักฐานที่เรารับมา โดยเฉพาะหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์
ร.ต.อ.วิษณุ อธิบายถึงลักษณะของตัวการร่วมในการกระทำความผิด ว่า เราสามารถพิจารณาได้ว่าอะไรคือตัวการหลัก ตัวการร่วม และต้องยึดข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐาน หรือรู้หรือควรรู้ แล้วอ้างไม่รู้ เราก็ต้องใช้พิจารณา รวมทั้งต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พวกเส้นทางการเงินมีลักษณะอย่างไร ซึ่งในเรื่องแชร์ลูกโซ่มันชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้น การจะออกหมายเรียกใครในกลุ่มที่ 2 มาสอบปากคำหรือดำเนินคดี ก็ต้องดูเส้นทางการเงินว่าใครได้รับประโยชน์ หรือเกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดตัวการหลักที่อยู่ในเรือนจำฯ หรือเรียกว่าตัวการร่วม ทั้งนี้ กลุ่มพรีเซ็นเตอร์จะมีความผิดด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องมาดูรายละเอียดและข้อเท็จจริงเป็นรายบุคคล เพราะต้องดูสิ่งตอบแทนที่เขาได้รับ
ร.ต.อ.วิษณุ อธิบายว่า ส่วนเรื่องจำนวนบัญชีแอคเคานท์ที่เกี่ยวข้องกับแผนธุรกิจบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ประมาณ 300,000 บัญชีนั้น อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบเรื่องนิติวิทยาศาสตร์ แต่ยังไม่ขอเผยว่ามีชื่อบุคคลสำคัญหรือไม่ ขณะที่ประเด็นเรื่องนาฬิกาเก๊ยันกล่องที่ดีเอสไอไปตรวจยึดมาก่อนหน้านี้ เบื้องต้นมีกระแสข่าวว่าเป็นของบอสอ๊อฟ หรือนายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หากเป็นการสะสมไว้เพื่อสำหรับจัดฉากโชว์ เพื่ออ้างว่าประกอบธุรกิจกับเขาแล้วจะมีนาฬิกาหรู แบบนี้ตนจะยึดไว้เป็นของกลางในคดี ส่วนผลตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้มีการแจ้งมา อยู่ระหว่างตรวจสอบ หากตรวจแล้วพบว่าเป็นของแท้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหายในคดีที่จะได้รับชดเชยเฉลี่ยเงินคืนได้มากขึ้นจาก ปปง.