เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ รพ.มหทาวิทยาลัยบูรพา รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไตรคุณธรรมว่า มีผู้ป่วยฉุกเฉินในห้องพักพื้นที่ หมู่ 1 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นางนารี (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี นั่งร่ำไห้ฟูมฟายกอดร่างลูกสาว อายุ 22 ปี อยู่บนที่นอน สภาพนอนแน่นิ่ง ตัวเย็นไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย จึงนำศพส่งชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

สอบถาม นางนารี เบื้องต้นให้การทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวป่วยออทิสติกมีโรคประจำตัวหลายโรค ลิ้นหัวใจรั่ว และโรคปอดอักเสบ โดย 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พาลูกสาวไปฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 ที่เทศบาลเมืองบ้านสวน ซึ่งหลังจากฉีดมาลูกสาวก็มีอาการเป็นไข้มาโดยตลอด คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมากเพราะเข็มที่ 1 ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงให้กินยาพาราลดไข้

นางนารี กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.วันนี้ ลูกสาวยังลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำได้ตามปกติ แต่พอเวลาประมาณ 05.00 น. เห็นเงียบไปผิดสังเกตไม่ได้ยินเสียงกรนเหมือนทุกครั้งเรียกไม่ขาน ปลุกไม่ตื่นนอนแน่นิ่ง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือแต่เสียชีวิตแล้วดังกล่าว ทั้งที่เมื่อคืนยังพูดคุยเล่นกันอยู่เลยและลูกยังพูดเป็นลางว่ายายมาคุยกับหนูด้วยแม่ ซึ่งแม่ตนก็ตายในห้องนี้เมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งยังทำใจไม่ได้ก็ต้องมาเสียลูกไปอีกคน จากนี้ตนไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่รู้จะอยู่ต่อไปอย่างไร เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากวัคซีน จะเอาผิดหน่วยงานเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิดที่ทำให้ลูกต้องเสียชีวิตต่อไป