เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายเวหา แสนชนชนะศึก อายุ 37 ปี นักกิจกรรมและเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวจังหวัดพิษณุโลก เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บรรจง หนูหว้า สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภเมืองนครสวรรค์ ได้เคยอุ้มตนเองและนำตัวไปกักขังพร้อมทั้งทำร้ายร่างกาย เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 63 ในระหว่างที่นายเวหากำลังจะจัดกิจกรรมการชุมนุม พิษณุโลกคนกล้า ไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ

นายเวหา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 63 ที่ผ่านมา ตนได้เตรียมจัดกิจกรรมการชุมนุม พิษณุโลกคนกล้า ไม่ก้มหน้าให้เผด็จการ อยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำน่านในตัวเมืองพิษณุโลก ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจน์มาฉุดกระชากนำตัวขึ้นรถ และครอบศีรษะด้วยถุงผ้า แล้วพาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง โดยการจับตัวตนไปครั้งนั้นทำให้การชุมนุมในวันนั้นไม่สามารถจัดขึ้นได้ตามที่ตั้งใจ มีเพียงนิสิตจากมหาวิทยาลัยนเรศวรพร้อมด้วยผู้ชุมนุมอีกบางส่วนได้จัดกิจกรรมต่อ ทั้งนี้ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัว ตนได้ถูกทำร้ายร่างกาย เช่น การซกต่อยที่ใบหน้า การเตะที่หน้าอกและการกระทืบด้วยเท้าตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจน์จะนำตัวตนมาทิ้งยังจุดเดิมบริเวณริมแม่น้ำน่าน

นายเวหา กล่าวอีกว่า หลังกลับมายังที่พักตนได้โพสต์เรื่องราวผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ว่า ตนถูกคุกคาม ซึ่งตนไม่ทราบว่าบุคคลที่รุมทำร้ายตนเป็นใคร แต่จำหน้าได้เท่านั้น ซึ่งต่อมาวันที่ 13 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาหาตนที่บ้านพัก ก่อนจับกุมตน และตนถูกนำตัวไปที่ห้องสืบสวน ซึ่งตั้งอยู่ภายนอกอาคาร สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่าทางตำรวจได้จับกุมตัวตนในฐานความผิดปล่อยเฟคนิวส์เรื่องการอุ้มแกนนำจัดกิจกรรม ทั้งนี้ตนถูกตั้งข้อกล่าวหาตามความผิดอาญามาตรา 1 (16) ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 (3) ถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 63 และถูกปล่อยตัวออกมาในวันที่ 9 พ.ย. 63 เนื่องจากอัยการจังหวัดพิษณุโลก มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี

กระทั่งเวลาผ่านไปจนเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 64 ขณะที่ตนร่วมกิจกรรมของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในกิจกรรมประชาราษฎร์เฟสติวัล ได้มีผู้มาแจ้งกับตนว่า คนที่อุ้มเราในวันนั้นคือผู้กำกับโจ้ นายเวหาจึงเช็กข่าวสารผ่านสื่อ พบว่าผู้กำกับโจ้บุคคลที่มีใบหน้าคล้ายกับที่เคยทำร้ายตน เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าในช่วงเดือน ส.ค. 63 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล เคยอยู่ในชุดสืบสวนของ ภ.จว.พิษณุโลก มาก่อน จึงเดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ฐานความผิดทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยว และทำให้บุคคลอื่นได้รับโทษ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป.