สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า กองทัพรัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครน ด้วยการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 145 ลำ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นการที่รัสเซียโจมตียูเครนโดยใช้โดรนมากที่สุดในคราวเดียว นับตั้งแต่สงครามระหว่างสองประเทศปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565
ในเวลาเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ว่าระบบป้องกันทางอากาศของกองทัพ สกัดการโจมตีจากโดรนของยูเครน 34 ลำ ซึ่งพุ่งเป้ามายังกรุงมอสโก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเช่นกัน ถือเป็นการที่ยูเครนส่งโดรนมายังเมืองหลวงของรัสเซีย มากที่สุดภายในวันเดียว นับตั้งแต่สงครามเปิดฉาก
ทั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างยังไม่ได้รายงานอย่างชัดเจน เกี่ยวกับขอบเขตความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตีด้วยโดรน ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่สอง ว่าการที่ทรัมป์พูดถึงสันติภาพและการเจรจา ไม่ใช่การพยายามยัดเยียดความปราชัยเชิงกลุยทธ์ให้แก่รัสเซีย เป็นเรื่องที่ดี
อย่างไรก็ตาม เปสคอฟกล่าวว่า “ยังเร็วเกินไป” ที่จะเชื่อมั่นตั้งแต่ตอนนี้ ว่าเมื่อเวลาผ่านไป ทรัมป์จะยังคงยึดมั่นกับสิ่งที่ตัวเองเคยกล่าวไว้ระหว่างการหาเสียง พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า ทรัมป์ “คาดเดาได้ยากกว่า” เมื่อเทียบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส.
เครดิตภาพ : AFP