สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงมีพระราชดำรัสต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสันนิบาตอาหรับ กับองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่กรุงริยาด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศ ร่วมกันยับยั้ง “ความก้าวร้าวของอิสราเอลที่มีต่อปาเลสไตน์และเลบานอน” และทรงประณามสงครามในฉนวนกาซา “คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยอิสราเอล”


ขณะเดียวกัน พระองค์ทรงยืนยันว่า ซาอุดีอาระเบียทรงยืนยัน ว่ารัฐบาลริยาดพร้อมมอบความสนับสนุนให้แก่ปาเลสไตน์และเลบานอน ในการก้าวข้ามผ่านผลกระทบร้ายแรงทางมนุษยธรรม ที่เป็นผลจากความก้าวร้าว ซึ่งยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยอิสราเอล

ผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสันนิบาตอาหรับ กับองค์การความร่วมมืออิสลาม ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย


ด้านแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุม กล่าวว่า สันติภาพในภูมิภาคจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างครอบคลุมและรวดเร็ว ตราบใดที่อิสราเอลยังไม่ยุติการยึดครอง และอาณาเขตของทุกพื้นที่ต้องกลับไปยังจุด ณ วันที่ 4 มิ.ย. 2510 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนสงครามหกวัน ที่อิสราเอลได้รับชัยชนะ และยึดครองเขตเวสต์แบงก์ ภาคตะวันออกของนครเยรูซาเลม ฉนวนกาซา และที่ราบสูงโกลัน


แถลงการณ์ยังอ้างอิงมติของสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่เรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารออกจาพื้นที่เหล่านั้น และแผนริเริ่มสันติภาพอาหรับ เมื่อปี 2545 ที่นานาชาติอาหรับเสนอการสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า อิสราเอลต้องคืนพื้นที่ซึ่งยึดครองหลังสงครามหกวัน


นอกจากนี้ แถลงการณ์ของที่ประชุม ยังเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการห้ามส่งออกอาวุธ และการถ่ายโอนอาวุธให้แก่อิสราเอลด้วย.

เครดิตภาพ : AFP