เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไสว มัฐผา อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้วงศ์ถั่ว (Fabaceae) ของไทย ร่วมกับนักพฤกษศาสตร์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นางขวัญใจ รอสูงเนิน นักวิชาการป่าไม้ โครงการอนุรักษ์พันธุ์ไม้ป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จ.บึงกาฬ นายสมราน สุดดี ที่ปรึกษาด้านพฤกษศาสตร์ป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช และนายวิทวัส เขียวบาง นักวิชาการป่าไม้ สำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ กรมป่าไม้ ร่วมกันตีพิมพ์พืชชนิดใหม่ของโลก พิษนาศน์ภูลังกา โดยได้ตีพิมพ์ตามกฎเกณฑ์ทางพฤกษศาสตร์ในวารสารนานาชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์ Blumea เล่มที่ 69 หน้าที่ 130-138 ปี พ.ศ. 2567 โดยใช้ชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Sophora phulangkaensis Mattapha, K. Khamm. & Suddee ตัวอย่างต้นแบบ Khammongkol 211 เก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ https://www.ingentaconnect.com/contentone/nhn/blumea/2024/00000069/00000002/art00003
พืชชนิดใหม่นี้ ถูกค้นพบบนเขาหินทราย อุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นครพนม คำระบุชนิด “phulangkaensis” ตั้งตามสถานที่ที่พบ พืชสกุลพิษนาศน์ (Sophora) ส่วนใหญ่เป็นพืชสมุนไพร รากมีสรรพคุณหลากหลาย เช่น ใช้ต้มน้ำดื่มบรรเทาอาการไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับพิษภายใน แก้ฟกบวมตามข้อ การค้นพบครั้งนี้ จะเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญในการวางแผนการอนุรักษ์และการศึกษาต่อยอดต่อไป
สำหรับลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่ม สูงได้ถึง 2 ม. กิ่งอ่อนมีขนหนาแน่น ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงเวียน ใบย่อย 7-15 ใบ เรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปขอบขนานแกมรูปรี กว้าง 0.8-2 ซม. ยาว 1-3 ซม. ปลายแหลม มน หรือเว้าบุ๋ม โคนมนหรือรูปลิ่มกว้าง ขอบเรียบ แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ ด้านบนเกลี้ยง ด้านล่างมีขนตามเส้นกลางใบ เส้นแขนงใบข้างละ 5-10 เส้น ก้านใบยาว 4-8 ซม. เป็นร่องทางด้านบน มีขน ก้านใบย่อยยาว 1-2 มม. มีขน หูใบรูปใบหอก ร่วงง่าย ไม่มีหูใบย่อย ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ปลายยอด ยาวได้ถึง 20 ซม. ช่อตั้งขึ้น มีขน ดอกสีขาวอมม่วงจางหรือสีชมพูอมม่วง ใบประดับและใบประดับย่อยมีขนาดเล็ก รูปสามเหลี่ยม ร่วงง่าย กลีบลี้ยงสีม่วงอมชมพู โคนเชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 5-8 มม. ผิวด้านนอกมีขน ด้านในเกลี้ยง ปลายแยกเป็น 5 แฉกสั้น กลีบดอกกลีบกลางรูปช้อน ยาวประมาณ 1.5 ซม. เกลี้ยง ปลายเว้าตื้น บนก้านกลีบไม่มีต่อมนูน กลีบคู่ข้างรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 1.2 ซม. ปลายมนกลม โคนมีติ่งทั้ง 2 ด้าน เกลี้ยง กลีบคู่ล่างรูปขอบขนานเบี้ยว ยาวเท่า ๆ กับกลีบคู่ข้าง ปลายมนกลมหรือตัด เกลี้ยง เกสรเพศผู้ 10 เกสร เชื่อมติดกลุ่มเดียว รังไข่มีขนหนาแน่น ผลรูปคล้ายสายลูกปัด คอดระหว่างเมล็ด กว้าง 5-7 มม. ยาว 0.7-1.2 ซม. มีขน เมล็ดรูปทรงรีหรือทรงกระบอกสั้น ยาวประมาณ 7 มม.
เอกสารอ้างอิง :Mattapha, S., Suddee, S., Khammongkol, K. & Kiewbang, W. 2024. Taxonomic notes on Sophora phulangkaensis, a new species of Sophora (Fabaceae – Sophoreae) from Thailand based on morphological and molecular evidence. Blumea 69 (2): 130–138. https://doi.org/10.3767/blumea.2024.69.02.03