เมื่อเวลา 13.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 12 ชั่วโมง) วันที่ 15 พ.ย. ตามวันของสาธารณรัฐเปรู ซึ่งกับวันที่ 16 พ.ย. ของประเทศไทย ที่ห้อง San Borja ชั้น 1 Lima Convention Center กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค ในช่วงอาหารกลางวัน (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders) พร้อมกล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อประชาชน ภาคธุรกิจ และความรุ่งเรือง (People. Business. Prosperity.)

โดยนายกฯ กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาร่วมกับสมาชิกสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC) การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจในระบบและเศรษฐกิจโลก แรงงานมากกว่าครึ่งของเอเปคมาจากเศรษฐกิจนอกระบบ จึงเป็นเรื่องที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ รวมทั้งบทบาทของการใช้ดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อสร้างการเข้าถึงอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ซึ่งที่ผ่านมา มีการปรับตัวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและมีความท้าทายในเรื่องต้นทุน และทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็น ดังนั้นการสนับสนุนผ่านโครงการเสริมสร้างศักยภาพโอกาส ในการเพิ่มทักษะและพัฒนาทักษะใหม่ๆ ตลอดจนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างทั่วถึง จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามีมาตรการทางการเงินที่เหมาะสม

นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากการค้า การลงทุน และการบูรณาการทางเศรษฐกิจ ยังมีความสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค นั่นก็คือการเติบโตทางนวัตกรรมทางการเงิน และระบบการชำระเงินดิจิทัลที่จะเป็นเครื่องมือช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้ โดยประเทศไทยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการวางระบบให้ประชาชนในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน สามารถชำระเงินผ่านรหัส QR code ระหว่างกันได้แล้ว ซึ่งจะช่วยให้การทำธุรกรรม การเงิน ข้ามพรมแดน ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อันเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ยืนยันไทยสนับสนุนให้เอเปค พิจารณาโครงการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนต่อไป เพื่อส่งเสริมระบบการเงินที่เสรี มีความปลอดภัยและแข่งขันได้

นายกฯ ยังกล่าวเชื่อมั่นถึงความยั่งยืน ที่จะเป็นแนวทางการเปลี่ยนแปลงที่เน้นประชาชนและโลกเป็นศูนย์กลางเป็นสิ่งสำคัญ จึงเป็นช่วงเวลาที่แต่ละประเทศต้องร่วมมือกันในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยยินดีที่เปรูผลักดันประเด็นสำคัญอย่างเช่น พลังงานสะอาด เช่น ไฮโดรเจน และพลังงาน คาร์บอนต่ำ รวมถึงการป้องกันและลดการสูญเสีย และขยะอาหาร ซึ่งทั้งสองอย่างสอดคล้องกับเป้าหมายปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ของไทย 

นายกฯ กล่าวชื่นชม National Center for APEC (NCAPEC) สำหรับการจัด Sustainable Future Forum เป็นปีที่สองติดต่อกัน ซึ่ง เป็นโอกาสดี ที่จะขับเคลื่อนและควรสนับสนุนถึงความพยายามเชิงนวัตกรรมและครอบคลุมจากภาคเอกชน องค์กร NGO และสถาบันการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานการเข้าร่วมหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค ช่วงอาหารกลางวันน.ส.แพทองธาร ได้พบกับนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา โดยได้ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกอีกด้วย.