สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ว่ากองทัพอากาศยูเครนออกแถลงการณ์ ว่ากองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธหลายลูกและหลายรุ่น มุ่งเป้าโจมตีเมืองดนิโปร ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ตั้งอยู่ทางตอนกลางของยูเครน


ทั้งนี้ หนึ่งในขีปนาวุธที่รัสเซียใช้โจมตีรอบนี้ คือขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ซึ่งเป็นการยิงมาจากภูมิภาคอัสตราฮัน ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่สงครามปะทุเมื่อเดือน ก.พ. 2565 ที่รัสเซียใช้ไอซีบีเอ็มกับยูเครน และเป็นรุ่นที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ อย่างไรก็ดี ขีปนาวุธลูกดังกล่าวที่มีการยิงออกจากรัสเซีย ยังไม่ได้มีการบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์

ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ โดยกล่าวเพียงว่า รัฐบาลมอสโก “อยู่ในฐานะที่มีความรับผิดชอบ” ที่จะ “พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง”


ก่อนหน้านั้น กองทัพยูเครนใช้งานขีปนาวุธพิสัยไกล “สตอร์ม ชาโดว์” ของสหราชอาณาจักร โจมตีเป้าหมายทางทหารอย่างน้อย 1 แห่ง ในภูมิภาคเคิร์สก์ ทางตะวันตกรัสเซีย โดยขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ มีระยะทำการไกลกว่า 250 กิโลเมตร และสามารถยิงได้จากอากาศยาน หลังใช้ขีปนาวุธ “อะแทคซิมส์” ของสหรัฐ ที่มีพิสัยทำการระยะไกลสูงสุด 300 กิโลเมตร โจมตีเป้าหมายทางทหาร ในภูมิภาคเคิร์สก์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP