กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) หรือ ศมส. สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกระบี่ เครือข่ายภาคประชาสังคม เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล 5 จังหวัด และภาคีองค์กรเครือข่ายด้านชาติพันธุ์ จัดงานสถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลโต๊ะบาหลิว ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอัตลักษณ์ และวิถีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ถือเป็นศักยภาพที่จะใช้ทุนวัฒนธรรมเป็นพลังสร้างสรรค์ในการพัฒนาประเทศตามแนวนโยบาย Soft power ของรัฐบาล รวมทั้งยังใช้เป็นพลังช่วยปกป้อง ดูแลทรัพยากรของประเทศให้มีความมั่นคงและยั่งยืนตามวิถีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา

รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์เป็นแนวทางการคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมของชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ในฐานะชุมชนดั้งเดิมที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์มีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณ รวมทั้งได้รับการส่งเสริมศักยภาพบนฐานทุนทางวัฒนธรรม ปัจจุบันมีการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ 23 พื้นที่ และพื้นที่ชุมชนชาวเลอูรักลาโวยจฺ ชุมชนโต๊ะบาหลิว อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ลำดับที่ 24 ซึ่งโต๊ะบาหลิว เป็นชุมชนดั้งเดิมของชาวเลอูรักลาโวยจฺ ที่อยู่อาศัยมาแล้วกว่า 80 ปี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงตามวิถีภูมิปัญญาเนื่องจากอยู่ใกล้กับชายฝั่งและตั้งอยู่ในเขตป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ชุมชนยังมีประเพณีวัฒนธรรมที่ปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง เช่น การรำรองแง็งที่เป็นศิลปะพื้นบ้านด้านการขับร้องและร่ายรำในภาษามลายู ประเพณีลอยเรือ (อารี ปือลาจั๊ก) เพื่อสะเดาะเคราะห์และเสี่ยงทายโชคชะตาให้การประกอบอาชีพทางทะเลปราศจากอุปสรรค โดยมีศาลโต๊ะบาหลิวเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชุมชนที่ยึดเหนี่ยวครอบครัวและชุมชนไว้ เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติผ่านกติกาชุมชน

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ วธ. ขับเคลื่อนแนวนโยบายฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล ตามมติคณะรัฐมนตรี 2 มิ.ย. 2553 มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลและชาวกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 เป็นกลไกพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนเขตพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรม โดยสนับสนุนและส่งเสริมให้ชุมชนชาติพันธุ์ในฐานะชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม มีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรอย่างสมดุลและยั่งยืน เกิดการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความมั่นคง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี พึ่งตนเองได้ บนฐานเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม โดยการขับเคลื่อนพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์นี้ ถือเป็นสาระสำคัญหลักในร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติรับหลักการไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์