เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังเชื้อโควิดกลายพันธุ์ สรุปว่าจากการตรวจสอบสายพันธุ์โควิดในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากกลุ่มตัวอย่างประมาณ 1,000 ราย พบเดลตา 98.6%, อัลฟา 0.6% และเบตา 0.8% สำหรับเชื้อกลายพันธุ์ที่เป็น “พลัส” หมายถึงสายพันธุ์เดิมและมีการเติมการกลายพันธุ์บางอย่างขึ้นมานั้น ที่ผ่านมาตรวจเจอเชื้ออัลฟาพลัสที่มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง E484K หลบภูมิได้อาการอาจมากกว่าเดิม โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ตรวจพบ 2 รายในผู้ต้องขังเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังตรวจประชาชน 1,119 คน ในจันทบุรีและตราด พบเชื้ออัลฟาพลัส 16 ราย เป็นคนไทย 4 ราย และกัมพูชา 12 คน ที่ทำงานในล้งผลไม้ ตอนนี้ประสานขยายการตรวจไปยังพื้นที่อื่นๆ และจะเก็บตัวอย่างเชื้อมาเพาะเชื้อในห้องปฏิบัติการและตรวจการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนต่อไป

ทำความรู้จัก ‘เดลต้าพลัส’ โควิดสายพันธุ์ใหม่พบมากในเด็กและเยาวชน!

ส่วนเชื้อเดลตาปกติ คือ b.1.6.17.2 มีการออกลูกหลานไปเรื่อย ๆ และเรียกชื่อว่า AY ตอนนี้มี 47 ชนิด คือ AY.1–AY.47 มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งต่างกัน แต่เรียกเดลตาพลัสหมด ส่วน AY.4.2 ที่กำลังระบาดที่อังกฤษ และหลายประเทศยุโรป มีกลายพันธุ์ตำแหน่ง Y145H และ A222V ทำให้แพร่เร็วกว่าเดลตาประมาณ 10-15% แต่ ณ วันนี้ เดลตาพลัสตัวนี้ยังไม่พบในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ได้รับการประสานงานจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารเมื่อเดือน ก.ย.ว่า มีการตรวจตัวอย่างที่กำแพงเพชร เป็นชาย 1 ราย เดินทางไปจากพระนครศรีอยุธยา พบเชื้อเดลตาพลัส AY.1 ที่มีการกลายพันธุ์ตำแหน่ง K417N ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลบนโลกว่า ตัวนี้จะมีฤทธิ์มากมายกว่าเดิมอย่างไร ส่วนเรื่องหลบภูมิยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ ผู้ป่วยรายนี้อยู่ รพ.สนาม รักษาหายดีแล้วไม่มีปัญหาอะไร แต่ต้องเก็บตัวอย่างคนที่มีความสัมพันธ์มาตรวจเพิ่มเติม

“โดยสรุป ขณะนี้ ประเทศไทยพบเชื้ออัลฟาพลัส 18 ราย พบเดลตาพลัส AY1 จำนวน 1 ราย จึงขอเคลียร์ให้ประชาชนเข้าใจตรงกัน” นพ.ศุภกิจ กล่าว

ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ยืนยันประเทศไทยมีการเฝ้าระวังติดตามเชื้อโควิดกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ไม่ปกปิดข้อมูล ยังไม่มีเชื้อที่มีนัยสำคัญทำให้เกิดการระบาดหนักจนถึงขั้นต้องทบทวนการเปิดประเทศ.