เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรค พปชร. และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของนายสามารถ ว่า วันนี้ตนมีนัดหมายประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเรื่องคดีการร่วมกันฟอกเงินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และจะได้มอบหมายให้โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ส่วนประเด็นที่พบพยานเอกสาร ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเป็นเอกสารที่ถูกจัดทำขึ้นโดยผู้มีความรู้เรื่องกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ หากดีเอสไอพิสูจน์ได้ว่าเป็นการทำพยานหลักฐานเท็จ ก็จะมีความผิดทางอาญาได้ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ตนยังไม่สามารถพูดได้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานเท็จหรือไม่ แต่น่าเชื่อได้ว่ามีการจัดทำเอกสารขึ้นมา ทั้งนี้ กรณีที่แม่ของนายสามารถ ให้สัมภาษณ์ว่าดีเอสไอยังไม่เคยมีการออกหมายเรียกแต่กลับมีการออกหมายจับ จนตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น เนื่องด้วยคดีนี้มีอัตราร้ายแรงโทษเกิน 3 ปี จึงต้องมีการขอศาลออกหมายจับ ก่อนที่ พ.ต.ต.ยุทธนา จะขอตัวยุติการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพื่อไปร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวนที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ประเด็นเรื่องการตรวจพบเอกสารฉบับดังกล่าว เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้มีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ย่านถนนพรานนก-พุทธมณฑล แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ และบ้านพักของนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ แม่ของนายสามารถ ในซอยพญานาค เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

จากการตรวจค้นนั้น พนักงานสอบสวนพบเอกสารที่มีการระบุวันที่ 12 พ.ย. 67 จัดทำขึ้นโดย “ทนายรายหนึ่ง” อ้างว่าจัดทำขึ้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื้อหาภายในเอกสารระบุใจความได้ว่า เป็นการขอให้ยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลการโอนเงินให้กับ นางวิลาวัลย์ (มารดานายสามารถ) โดยเนื้อหาในรายละเอียดแจ้งถึงการรับโอนเงินรวม 2,239,999 บาท จำนวน 12 ครั้ง ซึ่งชี้แจงว่าเป็นการกู้ยืมเงิน และบางส่วนระบุว่าเป็นเงินทำบุญ และนายสามารถ ได้ชำระคืนเป็นเงินสดแล้ว ซึ่งยอดเงินในเอกสารดังกล่าว เป็นวงเงินใกล้เคียงกับที่ตรวจพบว่าผู้ต้องหาดิไอคอน โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ โดยมีหนึ่งในทีมทนายความของผู้ต้องหา เป็นผู้จัดทำให้ ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขยายผล เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับทนายรายหนึ่งต่อไป.