เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน และสบคบกันฟอกเงิน ที่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. โดยกล่าวถึงอาการของนายสามารถ ที่ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อเย็นของเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ภายหลังอดอาหารและน้ำประท้วงสิทธิการประกันตัว ว่า นายสามารถไม่ได้รับประทานอาหารตั้งแต่วันที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษควบคุมตัวเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องเพื่อตนเอง แต่เป็นการเรียกร้องเพื่อผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสถานะเดียวกัน

ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวต่อว่า การประกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะมูลค่าความเสียหายของคดีดีไอคอนที่ดีเอสไอประเมินมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท แต่ในทางการสืบสวนเงินที่ผ่านบัญชีของมารดานายสามารถนั้น มีเพียงแค่ 2.5 ล้านบาท หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 0.08% ของความเสียหายทั้งหมด และในขณะนี้ทุกบัญชีก็ถูกอายัดไปหมดแล้ว จึงไม่มีเหตุให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมถึงความผิดมูลฐานยังไม่ชัดเจน และนายสามารถเองนั้น ก็ไม่ได้มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี จึงเป็นเหตุผลว่านายสามารถควรได้รับการประกันตัว เพื่อออกมาต่อสู้คดี และจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งตั้งแต่ที่นายสามารถรู้ตัวว่าถูกออกหมายจับ ก็ได้มีการประสานขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ยาว จ.เชียงราย และตนก็มีหลักฐานการขอเข้ามอบตัวของนายสามารถอีกด้วย รวมทั้งในหมายจับระบุว่า ออกหมายในวันที่ 24 พ.ย. แต่ดีเอสไอได้บุกค้นในวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งนายสามารถมีกำหนดการเดิมที่จะไปทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย อยู่แล้ว ทั้งในการไปทำบุญครั้งนั้น ยังมีผู้ร่วมไปทำบุญด้วยอีกหลายคนที่เดินทางไปด้วยกัน โดยได้มีการจองตั๋วเครื่องบินทั้งไปและกลับในวันดังกล่าว และหลังจากที่นายสามารถทราบว่าโดนหมายจับ ก็ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพื่อขอเข้ามอบตัว

“แม่สามารถ” บอกลูกชายอยู่เรือนจำ จะอดข้าวจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม!

ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวถึง ประเด็นที่มีการออกหมายจับนายสามารถ ในข้อหาฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน กรณีนี้ดีเอสไอยังดำเนินการในข้อหาแชร์ลูกโซ่กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ยังไม่เสร็จสิ้น และยังไม่มีความชัดเจนว่ามีความผิดหรือไม่ แต่กลับมีการแจ้งข้อกล่าวหานี้กับนายสามารถ ตนจึงมองว่า ไม่เป็นธรรม

ร.อ.ธีรศานต์ ยังบอกอีกว่า นายสามารถมีโรคประจำตัว คือโรคเบาหวาน โรคที่เกี่ยวกับไขมัน ไตรกลีเซอไรด์สูง และโรคเกี่ยวกับตับอ่อน โดยเบื้องต้น แพทย์ได้เข้ามาตรวจสอบแล้ว ซึ่งจากที่ตนเข้าไปพบ นายสามารถมีอาการอ่อนเพลียจากการอดอาหาร โดยตอนที่เข้าไปหานั้น “นายสามารถนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ ลักษณะอิดโรย เหมือนคนจะวูบตลอดเวลา” ทั้งนี้ นายสามารถได้เซ็นรับทราบไปแล้วในหนังสือแจ้งความประสงค์ ว่าหากเกิดอาการวูบ หมดสติ ช็อก แพทย์ไม่ต้องทำการกู้ชีพ และแพทย์ได้แนะนำให้นายสามารถกลับมารับประทานอาหารตามเดิม

เมื่อถามว่า จะส่งตัวนายสามารถกลับเข้าเรือนจำฯ เลยหรือไม่ ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าแพทย์ประเมินอาการไว้ว่าอย่างไร แต่ในประสงค์ของตน และทีมทนายความ คือต้องการประกันตัวนายสามารถออกมามากกว่า และจะมีการยื่นประกันตัวอีกครั้ง โดยใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการยื่นคำร้อง และจะต้องมีการหารือกับทีมทนายความ รวมถึงยังต้องรอเอกสารประกอบให้ครบถ้วนก่อน คาดว่าอย่างเร็วที่สุดน่าจะเป็นช่วงบ่าย หรือช่วงเย็นวันนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างไร ก็จะแจ้งสื่อมวลชวนต่อไป

ทั้งนี้ ร.อ.ธีรศานต์ ยังได้ฝากจดหมายผ่านตัวทนายความ ซึ่งมีเนื้อหาใจความว่า ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมในการได้รับประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดี ตามข้อบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และในตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินว่านายสามารถเป็นคนผิด จึงอยากออกมาสู้คดี