นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีนโยบายให้สถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศ โดยที่ผ่านมา รฟท. ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า และตรวจความพร้อมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้นำคณะผู้บริหาร รฟท. ลงพื้นที่ตรวจความพร้อม เพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกล ที่จุดจอดรถบนชานชาลาชั้น 2 สถานีกลางบางซื่อ โดยได้ตรวจความพร้อมของขบวนรถไฟทางไกล และห้องควบคุมรถไฟทางไกล ซึ่งทำหน้าควบคุมการเตรียมทาง ประแจ และระบบอาณัติสัญญาณภายในย่านการปล่อยรถ ตลอดจนแผนการเดินรถทางไกลขบวนต่างๆ

นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ปลดปล่อยจากขบวนรถไฟทางไกล การตรวจระดับความดังของเสียง และการตรวจวัดความร้อนของอากาศ พบว่า อยู่ในค่ามาตรฐานทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ชุมชน รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ในขั้นตอนตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 บริเวณข้างขบวนรถไฟ โดยเว้นระยะห่างตรวจวัดจากข้างรถไฟประมาณ 2 เมตร ขณะที่ขบวนรถไฟจอดรอเวลาออก และจอดรอรถสับเปลี่ยนมาต่อ เพื่อลากลงไปที่โรงซ่อมบำรุงรถไฟทางไกล พบว่า มีค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์วัดดัชนีคุณภาพอากาศ โดยมีค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศเทียบเท่าค่าดัชนีคุณภาพอากาศเฉลี่ยอยู่ที่ 0-50 AQI ตามมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งเป็นระดับที่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้ง และการท่องเที่ยวได้เป็นปกติ

นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจระดับความดังของเสียงบริเวณชานชาลาที่ 1 ก่อนขบวนรถเทียบ มีค่าระดับของเสียงอยู่ที่ 80-90 เดซิเบล ซึ่งเป็นระดับเสียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ ขณะที่การตรวจวัดความร้อนของอากาศโดยรอบมีค่าเฉลี่ยไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส ซึ่งมีการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในไว้ ทำให้อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในภาพรวมเบื้องต้นพบว่ามีความเรียบร้อยดี และพร้อมเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล ตามกำหนดในวันที่ 23 ธ.ค.64 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศที่ดีและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ตลอดจนเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของประเทศไทยต่อไป.