จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรม จาก น.ส.วนาลี (ชื่อเล่นนาว) จันทร์อร่าม อายุ 51 ปี เจ้าของธุรกิจบริษัทแห่งหนึ่ง หลังเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพราะถูกคู่กรณีใช้มีดกรีดตัวถังรถยนต์ ด้านขวาของรถ Toyota Fortuner สีขาวของตนจนได้รับความเสียหาย
นางสาววนาลี เล่าว่า ช่วง 11.30 ของวันที่ 25 พ.ย. 67 ผ่านมา ตนเองขับรถยนต์อเนกประสงค์ ส่วนตัวยี่ห้อ Toyota Fortuner สีขาว ทะเบียน ฆศ-8607 กทม. มาจากฝั่งแยกพงษ์เพชรด้านถนนประชาชื่น ก่อนจะถึงไฟแดงเลี้ยวขวาไปเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ปรากฏว่าได้มีชายขี่จยย.อาชีพ Rider ใส่เสื้อสีส้มของบริษัทขายของออนไลน์แห่งหนึ่ง สวมหมวกกันน็อกขับปาดหน้าซ้ายขวาไปทั่วจนตนเองเกือบเบรครถไม่ทัน
ระหว่างนั้นตนได้กดแตรรถยนต์ ไป 2 ครั้ง ทำให้คนขี่ Rider ดังกล่าวหันมามองด้วยความไม่พอใจ จนกระทั่งรถวิ่งชะลอมา ใกล้ถึงแยกไฟแดง พงษ์เพชร ชายคนขี่จยย.รายนี้ได้ขี่รถประกบข้างขวา โดยใช้อาวุธมีดดาบยาว กรีดแนวรถตนตั้งแต่ด้านท้ายจนมาถึงด้านหน้าเป็นแนวยาวตลอดทั้งคัน ก่อนจะขี่ไปดักอยู่ข้างหน้ารถยนต์ของตนเองแล้วชูมีดด้วยความสะใจ จากนั้นขี่หายไปทางถนนงามวงศ์วานผ่านโรงพักรัตนาธิเบศร์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนขี่รถหลบหนีไป
ล่าสุดวันนี้เมื่อเวลา 18.00 น.ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ นายกริชณัฐ 28 ปี หรือชื่อเล่น (ป้อน) เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยยอมรับว่าเป็นไรเดอร์ ที่ก่อเหตุ ใช้มีดกรีดรถฟอร์จูนเนอร์ของนางสาววนาลี โดยพูดคุยตกลงหาข้อสรุป ซึ่งไรเดอร์หนุ่ม ยอมรับว่าวันเกิดเหตุ ถูกผู้เสียหายกดแตรใส่ตนเองจนทำให้จยยที่ขี่ แฉลบไปโดนท้ายรถกระบะ บรรทุกของ จนกระทั่งกระจกมองขวา แตก กระจกด้านซ้ายร้าว ตอนนั้นตนฟิวส์ขาดรู้สึกโมโหอย่างมากจึงชะลอรถรอ พอผู้เสียหายขับรถมา จึงขี่จยย.ประกบ ก่อนใช้มีดพับกรีดรถแล้วไม่ได้ชูมีดด้วยความสะใจตามที่เป็นข่าว
ส่วนมีดที่ตนพกก็เป็นเพียงมีดเล่มเล็กๆที่ไว้กีดกล่องอาหารหรือพัสดุที่ส่งให้ลูกค้า เรื่องที่เกิดขึ้นตนยอมรับผิดทุกอย่างก่อนยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย ซึ่งรถ Fortuner คันดังกล่าวมีประกันชั้น 1 ทางตัวแทนประกันภัยของบริษัททิพยประกันภัย ตีค่าซ่อมทั้งหมด 6,000 บาท ค่าเยียวยาที่ผู้เสียหายเสียเวลา และไม่มีรถใช้ในช่วงนี้อีก 5,000 บาทแต่นายป้อนมีเพียง 5,000 บาทที่พกมาในวันนี้ จึงต่อรองผู้เสียหายเหลือ 4,500 บาท เนื่องจากต้องนำเงินอีก 500 บาทไปเสียค่าปรับให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาขับรถประมาท ทำลายทรัพย์สินเป็นเหตุให้รถผู้อื่นเสียหาย โดยหนุ่มRider บอกว่า ต่อไปนี้ก็จะใจเย็นลงแล้วไม่หัวร้อน และรับปากว่าจะไม่ทำอีก ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะลงบันทึกประจำวันแยกย้ายกันกลับไป
