เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4, พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4, ร.ต.อ.เปรมประชา อุตมา รอง สว.กก.2 บก.สอท.4 สนธิกำลังนายสุธีระ พึ่งธรรม ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม และเจ้าหน้าที่ กสทช. นำหมายศาลจังหวัดนนทบุรีเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนตรวจยึดมินิพีซี ยี่ห้อ bmax จำนวน 120 เครื่อง, Usb hub จำนวน 80 อัน, Aircard พร้อมซิมโทรศัพท์ จำนวน 369 อัน, เครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook จำนวน 1 เครื่อง, จอคอมพิวเตอร์

พล.ต.ต.จิตติพนธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มคนจีนมาเช่าบ้านดังกล่าวทำเป็นสำนักงาน โดยซื้อข้อมูลคนไทยมาสมัครร้านค้าออนไลน์ ในแพลตฟอร์ม etsy และ amazon ของอเมริกา เนื่องจากประเทศสหรัฐอเมริกา กำหนดให้คนจีน 1 รายชื่อ สามารถเปิดร้านค้าได้ 1 ร้านเท่านั้น ทำให้เกิดความหัวใสประกอบกับมีคอนเนคชั่นในไทยอยู่แล้ว จึงไปหาคนไทยที่หารายได้เสริมในเพจเฟซบุ๊กกลุ่มหางาน โดยให้ค่าตอบแทนรายละ 900-1,000 บาท และนำร้านค้าออนไลน์ที่คนไทยได้สมัครเปิดไปแล้วไปปล่อยทำกำไรต่อให้กับคนจีน ในราคาร้านละ 40,000 หยวน หรือตกราวๆ 200,000 บาทไทย ซึ่งร้านค้าออนไลน์ดังกล่าวเมื่อตกไปอยู่ในมือคนจีนแล้วนั้นอาจจะสร้างความเสียหายให้กลุ่มคนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะใช้วิธีการเลี้ยงลูกค้าที่สั่งสินค้าอยู่เป็นประจำ 5-6 เดือน ทำให้ตายใจ หลังจากนั้นจะปิดร้านค้าหนี เช่น ร้านค้าออนไลน์ที่สั่งของแล้วไม่ได้ของ เป็นต้น โดยมุ่งเป้าหลักคือ คนจีนและอเมริกัน เนื่องจาก แอป etsy เป็นแอปประเภทสินค้าแฮนด์เมด เป็นที่นิยมของฝรั่ง ครั้งแรกอาจจะได้ของแต่ต่อมาสั่งของก็ไม่ได้ของ จนอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใช้บริการ

สอบสวนนายเฉิน (นามสมมุติ) ชาวจีน ผู้เช่าบ้านให้การว่า ก่อเหตุจริงโดยของกลางที่ตรวจยึดเป็นอุปกรณ์สำหรับร้านค้าออนไลน์ มินิพีซี 1 เครื่องเท่ากับ 1 ร้านค้า และจะใช้อินเทอร์เน็ตผ่านแอร์การ์ด สำหรับทำยอดไลก์ มินิพีซีบางเครื่องจะมีแอร์การ์ดถึง 3 ตัว เพื่อป้องกันการไม่เสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยจะมีบอสชาวจีนควบคุมระยะไกลจากประเทศจีนและตนได้เข้ามาประเทศไทยโดยใช้วีซ่าสำหรับคนทำงานประเภทดิจิทัลต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของทาง กสทช.พบว่า แอร์การ์ดที่ตรวจพบมีใช้ลูกข่ายเซลลูลาร์ เครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยยังไม่ได้ตรวจรับรองมาตรฐานโทรคมนาคม จึงดำเนินการแจ้งข้อหาตามความผิดพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตรา 6 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามมาตรา 23 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมายพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต่อไป