เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 67 ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โฮเทลส์ และทาวเวอร์ กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความขัดแย้งใน สส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาขู่พรรคภูมิใจไทย ที่เห็นไม่ตรงกับพรรคเพื่อไทย เรื่องเกณฑ์ผ่านการทำประชามติตามร่างกฎหมายประชามติ ด้วยการยุบสภา ว่า ฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ แต่หากฝ่ายรัฐบาลจะเกิดปัญหาการเมืองภายใน จะเกิดการยุบสภาหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาล จะต้องไปเจรจากันต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจะมีการแตกหักถึงขั้นยุบสภาจริงหรือไม่นั้น ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะเป็นเรื่องการเมืองภายในของพรรคร่วมรัฐบาล แต่เห็นได้จากอดีตว่า หากมีเรื่องที่ต้องลงมติ ทั้งรายงานการนิรโทษกรรม หรือกฎหมายอื่น ๆ บางครั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อว่า ประชาชนคนไทยก็มีความเป็นห่วง เพราะหากการเมืองขาดเสถียรภาพ ก็จะส่งผลถึงความเชื่อมั่นใจการลงทุน และความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ด้วย

เมื่อถามย้ำงว่า หากมีการยุบสภาจริง พรรคประชาชนจะมีความพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งแล้วหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวยืนยันว่า ทางพรรคประชาชนมีความพร้อมทุกสนามอยู่แล้ว และพรรคการเมืองทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคใด ไม่สามารถปฏิเสธการเลือกตั้งได้ และพรรคประชาชน ก็มีความพร้อมทุกวินาที และหากจะมีการเลือกตั้งใหม่ พรรคก็จะมีนโยบายใหม่มานำเสนอให้กับประชาชนทุกคน

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ฝ่ายค้านโดยพรรคประชาชน ยังคงยืนยันผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด เห็นได้จากดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ซึ่งก็ได้มีการไปหารือกับประธานรัฐสภา และประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้ยืนยันต่อฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วว่า สามารถจัดการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยประธานรัฐสภา สามารถบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้โดยทันที และยังมีช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่มีการบรรจุระเบียบวาระ ที่เสนอโดยพรรคประชาชน เข้าสู่ระเบียบวาระไปแล้ว ดังนั้นในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันว่าได้ดำเนินการอย่างเต็มที่.