เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่ SCB next Tech ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นฤมิตไพรด์ พร้อมคณะทำงานสมรสเท่าเทียมภาคประชาชน ภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันผลักดันพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม และกรุงเทพมหานคร จัดงานแถลงข่าว “นับถอยหลังสู่วันสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality Day)” เพื่อให้ข้อมูลแก่คู่รัก LGBTQIAN+ สำหรับการจดทะเบียนสมรสวันแรกในประเทศไทย
และเฉลิมฉลองความสำเร็จเพื่อความเท่าเทียมตามกฎหมาย เป็นการยืนยันความก้าวหน้าทางสิทธิและความเท่าเทียมที่ภาคประชาชนและทุกภาคส่วนได้ร่วมกันขับเคลื่อนตลอดระยะเวลาหลายปี กิจกรรมในงาน การเสวนาการเตรียมความพร้อมวันสมรสเท่าเทียม Fashion Show สมรสเท่าเทียม และการแสดงดนตรีและบทเพลงความรัก ความเท่าเทียม โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายศานนท์ วังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน
โดย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม นอกจากการผลักดันของรัฐบาล ก็สำเร็จได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเมือง ภาคเอกชน ภาคประชาชนและภาคประชาสังคม ที่ทำงานอย่างหนักมาก ในการเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติที่มีต่อกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน จนถึงวันนี้ที่ประเทศไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นประเทศแรก ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ถือว่ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และได้รับคำชื่นชมจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รัฐบาลพร้อมที่จะทำให้ทุกความรักในประเทศไทย ได้รับการรับรองตามกฎหมาย และให้ทุกเพศได้รับการยอมรับและมีสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกัน
โดยวันนี้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรุงเทพมหานคร เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อวันที่ 22 ม.ค. 68 จะได้มีการจดทะเบียนสมรสให้กับคู่รักทุกคู่
นอกจากนี้ ทางกระทรวงยุติธรรม และ พม. อยู่ระหว่างศึกษากฎหมาย ที่จะช่วยส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะของความเท่าเทียมทางเพศหากมีความคืบหน้าอย่างไร ทางกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็จะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม โดยในวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด จะมีการเตรียมความพร้อม ในการจดทะเบียนให้กับคู่รักทุกคู่ และในส่วนของภาคเอกชนก็มีการเตรียมพร้อมที่จะเฉลิมฉลอมจัดอีเวนต์ ส่วนทางรัฐบาลนั้น กระทรวง พม. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็อยู่ระหว่างการประชุมจัดงานเฉลิมฉลองด้วยให้กับทุกคู่รักด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งหากมีการ kick off โดยนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป เมื่อการเตรียมงานชัดเจน
ด้าน นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวถึงความพร้อมของนายทะเบียนทั่วประเทศเพื่อรองรับการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ว่า ขณะนี้ อยากรู้จดหมายเหตุผลใช้บังคับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทางกรมการปกครองได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ประกอบด้วย ด้านแรกคือ เรื่องของการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ด้านที่ 2 มีการปรับปรุงระบบ จากเดิมที่ระบุแค่ชายหญิงตอนนี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนแล้วเป็นคู่สมรส เปลี่ยนแบบพิมพ์ต่างๆ ด้านต่อมาคือการเตรียมความพร้อมบุคลากร เบื้องต้นได้พูดคุยกับบุคลากรผ่านระบบออนไลน์แล้ว ในการเตรียมรองรับ แต่ขณะนี้กฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ จึงเป็นการเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจกับประชาชน
ในด้านสุดท้ายคือเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ตนได้กำชับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนผ่านสื่อออนไลน์ ทั้งหลายของกรมการปกครอง ทั้งเรื่องหลักฐานต่างๆ ที่ต้องนำมา สิทธิของคู่สมรส คุณสมบัติของผู้สมรส ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย เช่น คู่สมรส ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์แล้วแต่เนื่องจากเมืองไทย ถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็จะต้องมีความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย ต้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ โดยสามารถไปจดทะเบียนได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอทั้ง 878 แห่ง ทั่วประเทศ รวมทั้งจุดเคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม จำนวน 19 แห่ง สํานักงานเขต 50 เขต และสถานทูต/สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ ทุกแห่งโดยไม่คำนึงถึงภูมิลำเนาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวเพิ่มว่า สำหรับผู้ที่จะมาจดทะเบียนสมรสก็สามารถจดได้ทั้งคู่สัญชาติไทยด้วยกันทั้ง 2 คน, คู่สัญชาติไทยกับชาวต่างชาติและคู่ชาวต่างชาติ ทั้งนี้สำหรับคู่ที่เป็นชาวต่างชาติทั้งสองคน สิทธิทางกฎหมายก็จะขึ้นอยู่กับกฏหมายของประเทศนั้นๆ ว่าในส่วนของกฎหมายสมรสเท่าเทียมหรือไม่ หากถามถึงความพร้อมของกรมการปกครองขณะนี้ มีความพร้อมแล้วประมาณ 80% อยู่ที่ความชัดเจน ในวันที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ว่าจะเป็นเมื่อใดในช่วงเดือน ม.ค. 68 ถ้าหากประกาศแล้ว ก็สามารถมาจดทะเบียนสมรสได้ทันที ทั้งนี้ ประชาชนสามารถดูรายละเอียดเอกสาร รวมทั้งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ที่ www.dopa.go.th และ www.bora.dopa.go.th
ทางด้านนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความพร้อมของ กทม. ในฐานะนายทะเบียนท้องถิ่นว่า ปีที่ผ่านมา กทม. ได้มีการจดทะเบียนสมรส เกือบ 40,000 คู่สมรส รวมทั้ง มีการซักซ้อมเจ้าหน้าที่ในการรับจดแจ้ง คู่ชีวิตกว่า 100 คู่ จึงเชื่อว่า หากระบบของกระทรวงมหาดไทย เสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ของ กทม. ก็มีความพร้อมในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดอบรมเจ้าหน้าที่ในเรื่องของทัศนคติและการใช้คำพูดในการถามคำถามก่อนที่จะดำเนินการจดทะเบียนสมรสให้โดยไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ปัจจุบันในช่วงที่ระหว่างรอระบบ สำนักปกครองและทะเบียน ได้ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการ ก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนความพร้อมด้านอื่นของกรุงเทพมหานครนั้น เราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิทธิความเท่าเทียมในที่ทำงานตามประกาศของผู้ว่าฯ กทม. หรือ ไพร์ดคลินิก เป็นต้น.