เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม สั่งการให้ พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (ป.) สน.เพชรเกษม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายมานพ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาว จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ ตามหมายจับศาลแขวงบางบอนที่ 156/2567 ลงวันที่ 18 ต.ค. 67 โดยจับกุมตัวได้ข้าง สน.เพชรเกษม
สืบเนื่องจากช่วงกลางปี 66 น.ส.จันทา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ผู้เสียหาย ได้มอบทองคำแท่งจำนวน 304.87 กรัม และน้ำประสานทองน้ำหนัก 32.15 กรัม ทองรูปพรรณประเภทสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 60.45 กรัม รวมน้ำหนัก 397.47 กรัม ซึ่งจะต้องนำทองคำทั้งหมดหลังจากการทำเสร็จแล้วมาคืนให้กับ น.ส.จันทา รวมน้ำหนักเท่าที่นายมานพ รับไป แต่นายมานพ มาแจ้งกับ น.ส.จันทาว่า ทองไม่พอทำงาน น.ส.จันทา จึงได้นำทองคำแท่งมาเพิ่มให้กับนายมานพ อีกจำนวน 3 ครั้ง ครั้งละ 13.14 กรัม, 11.48 กรัม และ 27.19 กรัม รวมน้ำหนักทองที่เพิ่มไปให้เป็นจำนวน 51.81 กรัม รวมน้ำหนักทองทั้งหมด 449.28 กรัม
หลังจากที่ นายมานพ ทำงานได้ทองรูปพรรณเสร็จสิ้นแล้ว จะต้องนำมาคืนให้กับ น.ส.จันทาทั้งสิ้น 446.18 กรัม (ซึ่งหักค่าทำงานไป 3.1 กรัม) แต่ปรากฏว่า น.ส.จันทา ได้รับทองรูปพรรณจากนายมานพ ทำเสร็จแล้วทั้งสิ้น 371.76 กรัม โดยมีทองคำขาดไปจำนวน 74.42 กรัม มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท ทำให้ น.ส.จันทา ได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
จากการสอบสวนนายมานพ ให้การรับสารภาพอ้างว่า ได้ยักยอกทองไปจริง เนื่องจากต้องนำเงินไปรักษาภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็ง และต้องส่งลูกเรียนในระดับมัธยม ซึ่งตนเคยตกลงกับผู้เสียหายว่าจะทำงานใช้หนี้จนครบ โดยทำงานให้หักเงินไปได้ประมาณ 3 หมื่นบาท จากนั้นตนก็หนีไปทำงานก่อสร้างที่ จ.สมุทรปราการ ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท สุดท้ายก็มาถูกจับในที่สุด เบื้องต้นจึงถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.