สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวินด์ฮุก ประเทศนามิเบีย เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ว่า นางเนตุมโบ นันดิ-นไดตวา รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนจากประชาชนมากถึง 57% ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ชนะนายปันดูเลนี อิตูลา ตัวแทนของพรรคเสรีชาตินิยมเพื่อการเปลี่ยนแปลง (ไอพีซี) ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน และได้รับคะแนนเสียงเพียง 25.5%

นางนันดิ-นไดตวา วัย 72 ปี จะกลายเป็นสตรีคนแรกที่ปกครองนามิเบีย นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2533 ขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นการทดสอบการยึดอำนาจตลอด 34 ปี ของพรรคประชาชน ขณะที่พรรคไอพีซี ได้รับการสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ ซึ่งกังวลถึงปัญหาการว่างงาน และความไม่เท่าเทียม

ทั้งนี้ การลงคะแนนเสียงถูกขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย. เนื่องจากปัญหาด้านการขนส่งและทางเทคนิค รวมถึงบัตรลงคะแนนมีไม่เพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนต่อคิวยาวเหยียด

แถลงการณ์ของพรรคไอพีซีระบุว่า อุปสรรคเหล่านี้ถือเป็นเจตนาในการทำให้ผู้ลงคะแนนผิดหวัง และเป็นการไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง ด้านอิตูลา กล่าวว่า “มีการทุจริตเป็นวงกว้าง” และพรรคของไอพีซี จะไม่ยอมรับผลของการเลือกตั้งครั้งนี้

คณะกรรมการการเลือกตั้งของนามิเบีย (อีซีเอ็น) ยอมรับถึงความล้มเหลวในการจัดการลงคะแนนเสียง รวมถึงปัญหาบัตรลงคะแนนไม่เพียงพอ และแท็บเล็ตสำหรับลงทะเบียนใช้สิทธิ ก็ทำงานหนักจนมีอุณหภูมิร้อนเกินไป

จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกือบ 1.5 ล้านคน เกือบ 77% ได้ใช้สิทธิแล้ว โดยพรรคสวาโป กวาดที่นั่งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติได้ 51 ที่นั่ง จาก 96 ที่นั่ง และพรรคไอพีซี ได้ไปเพียง 20 ที่นั่ง ซึ่งลดลงจาก 63 ที่นั่ง เทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2562.

เครดิตภาพ : AFP