เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 03.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่วัดหลิงกวง ได้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราวในประเทศไทย โดยมีพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และพระมหาเถระเหยี่ยนเจวี๋ย ประธานพุทธสมาคมจีน เป็นประธานร่วมฝ่ายสงฆ์ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเฉิน รุ่ยเฟิง รัฐมนตรีประจำสำนักงานกิจการศาสนาแห่งชาติจีน เป็นประธานร่วมฝ่ายฆราวาส หลังจากนั้น คณะผู้อัญเชิญเกียรติยศฝ่ายไทย และคณะติดตามเกียรติยศฝ่ายจีน พร้อมทั้งคณะผู้ดูแลรักษา ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ขึ้นประดิษฐานบนเครื่องบิน เที่ยวบินพิเศษ เดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง ในเวลา 08.30 น.

ต่อมาเวลา 12.20 น. เครื่องบินพิเศษอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ได้ถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กรุงเทพมหานคร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีรับการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว จากนั้นเวลา 13.19 น. อัญเชิญพระเขี้ยวแก้วประดิษฐานห้องรับรองกองบิน 6 ดอนเมือง พระพรหมดิลก กรรมการมส. เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เป็นประธานสงฆ์ฝ่ายไทย และพระอาจารย์เหยี่ยนเจว๋ ประธานพุทธสมาคมจีน เจ้าอาวาสวัดกว่างจี้ เป็นประธานสงฆ์ฝ่ายจีน ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ หลังจากนั้นนายเฉิน รุ่ยเฟิง รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการศาสนาแห่งชาติจีน หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายจีน กล่าวมอบพระเขี้ยวแก้ว และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีฝ่ายไทย กล่าวรับพระเขี้ยวแก้ว โดยมีนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการดำเนินโครงการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี ก่อนที่เวลา 14.42 น. ได้เคลื่อนขบวนรถอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ผ่านเส้นทางเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนินไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

จากนั้นเวลา 17.00 น. ริ้วขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว จำนวน 24 ริ้ว ได้เริ่มเคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เพื่อไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยตลอดสองข้างทางมีประชาชนจำนวนมาก รอสักการะพระเขี้ยวแก้วเต็มสองข้างทาง จนถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และได้ประกอบพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ขึ้นประดิษฐานที่มณฑป โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมส. เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมคณะรัฐมนตรี และผู้แทนฝ่ายจีน ถวายพวงมาลัยสักการะ และมีคณะสงฆ์ฝ่ายจีน เจริญพระพุทธมนต์ ร่วมกับคณะสงฆ์ฝ่ายไทย

ต่อจากนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวรับพระบรมสารีริกธาตุ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และถวายดอกไม้ธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานสงฆ์ฝ่ายไทยให้ศีล และพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นเวลา 19.00 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้เสด็จถวายพวงมาลัยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงด้วย

ทั้งนี้การอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว มาประดิษฐานในประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 โดยจะประดิษฐานให้ประชาชนสักการะตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. ถึงวันที่ 14 ก.พ. 2568