จัดเป็นอีกหนึ่งสาวสุดมั่นที่หลายคนชื่นชอบอย่างมากสำหรับสาว ติช่า-กันติชา ชุมมะ ที่ล่าสุดเธอเดินทางมาพูดคุยถึงประเด็นที่กว่าจะมีวันนี้ต้องผ่านอุปสรรคอย่างมากมายและเรื่องที่ค้างคาใจระหว่างพ่อเลี้ยง พร้อมล้วงลึกเรื่องเซ็กซ์ (Sex Education) ทั้งหมดผ่านรายการ Woody FM แบบจัดเต็ม

ติช่า เผยว่า “ถ้าตอบเป็นเรื่องๆ ก็จุดซ่อนเร้นไหนของผู้ชายที่เห็นแล้วใจสั่นทันทีคือซิกแพ็ก ผู้ชายที่อร่อยที่สุดประเทศบราซิล (หัวเราะ) เวลานอนไม่หลับก็คือคิดถึง SEX มันก็ยิ่งนอนไม่หลับเลยทีนี้ เพราะติช่ามีความชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว แล้วหนูก็ช่วยตัวเองทุกวัน (ยิ้ม) เรื่องนี้ติช่าก็คุยกับแฟนค่ะ เป็นเรื่องที่ต้องคุย คือตอนแรกๆ เราไม่อยากบอกนะเพราะมันส่วนตัวมากๆ แต่พอเราโตขึ้นรู้สึกว่าเข้าใจตัวเอง เราคุยได้”

“ที่เราทำรายการเกี่ยวกับเซ็กซ์ Sex Education เพราะอยากลดสิ่งที่คนตราหน้ากันที่สำคัญที่สุด ถ้าเกิดคนอยากรู้จริงเขาไปเสิร์ชดูก็รู้เหมือนกันไม่จำเป็นต้องมาดูรายการนี้ แต่สิ่งที่เราอยากให้พูดเรื่อยๆ ในเรื่อง Stigma ที่เราจะสามารถลดมันได้แค่ไหน อย่างการมอง LGBTQ การรู้ผิดชอบชั่วดี การข่มขื่น การคุกคามทางเพศ อันนี้ควรหรือไม่ควร รู้สึกว่าเราต้องพูดเรื่องนี้กันให้มากขึ้นเหมือนกับตอนแรกหลายคนจะมองตัวเองว่าสิ่งที่คุณมาตราหน้าฉัน นั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น แต่ถ้าเกิดในใจเรารู้ว่ามันไม่ใช่ เราก็ต้องรู้อยู่ในใจค่ะ นั่นคือพาสของการเป็นผู้ใหญ่ที่รู้ตัวเองซึ่งมันไม่ต้องไปนั่งอธิบายให้คนทั้งโลกรู้ แต่เมื่อก่อนต้องแก้ต่างทันทีอธิบายตัวเอง”

ติช่า เผยว่า “ถ้าพูดถึงเรื่อง Sex เอาจริงๆ คนสนใจแน่นอน แต่มีหลายคนที่รู้สึกไม่สบายใจ มันเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ เขาเลยคิดว่ามาแชร์อะไรที่เป็นส่วนตัวขนาดนี้ ช่ารู้สึกว่าการช่วยตัวเองเป็นสิ่งที่เราได้จับตัวเอง ฉันสบายใจสบายตัวให้ความสุขกับตัวเอง พอเราจับตัวเองแทนที่เราจะรู้สึกอาย เพราะมันเริ่มจากตอนที่เราเด็กๆ เวลาเราช่วยตัวเองแล้วผู้ใหญ่ก็บอกว่าหยุดทำนะ ทำอย่างนี้ไม่ได้ เราเลยรู้สึกว่าเป็นความน่าอายรู้สึกผิด เลยต้องแอบทำ ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงผิด พอโตขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงรู้ว่า อ๋อ! มันเป็นยังงี้นี่เอง พอเรารู้แล้วความอายทั้งหมดมันไม่ได้หายไปแต่เรารู้สึกเข้าใจ มีความรู้สึกว่าทำไมฉันถึงชอบมันทั้งๆ ที่มันผิด ชอบเหลือเกิน ฉันอยู่กับตัวเองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย หายเครียด แต่ทำไมฉันต้องมารู้สึกผิดทีหลังด้วย มันต้องใช้เวลาในการปรับตัวเองด้วย หนูว่าเซ็กซ์เป็นการปลดปล่อยตัวเอง เรามีความสุขกัน เรามีช่วงเวลาที่ลึกซึ้งกัน”

“ตลอดการเติบโตของติช่า ตอนเด็กๆ เจอความลำบาก เหมือนกับว่าครอบครัวแยกทางกันก็เจอกับความยากจน ติช่าเกิดที่นครศรีธรรมราช แล้วก็ไปอยู่ที่ภูเก็ตสักแป๊บนึงซึ่งจำอะไรแทบไม่ได้เลย ซึ่งก็จำแต่สิ่งแย่ๆ ในหลายๆ ครั้ง โดนทำร้ายโดยผู้ปกครอง แล้วครอบครัวก็แตกแยกกันจึงย้ายไปอยู่ที่สกลนคร ช่าไม่ได้มีตัวเลือกไหนนอกจากใช้ชีวิตต่อ คือช่าไม่รู้หรอกว่าช่าเข้มแข็งเท่าไหร่แต่มันเป็นทางรอดเดียว ไม่งั้น You Cannot ทีนี้พอครอบครัวแยกกันก็ไปอยู่กับยาย ตอนนั้นคือจนสุดๆ ขนาดที่ไม่สามารถซื้อรองเท้านักเรียนใส่ได้ ต้องเดินเท้าเปล่า ได้ค่าขนม 3 บาทต่อวัน แต่ช่าเหลือเก็บ 2 บาททุกวัน ภูมิใจในตัวเองมาก เพราะติช่าฝึกควบคุมตัวเองตั้งแต่เด็ก ซึ่งเงินที่เก็บไม่ได้จะไปซื้อของขวัญหรือของเล่น แต่เก็บไว้โทรฯ หาแม่ จำได้ว่าแม่ไปอยู่ต่างประเทศแล้วเราก็โทรฯ ไปหาเขา ตอนนั้น 1 นาทีมันราคา 50-60 บาท แล้วช่าอยากคุยกับแม่ 3 นาทีต้องเก็บเท่าไรล่ะ จึงต้องหักห้ามใจ ถ้ากินเยอะก็จะได้คุยกับแม่น้อยลง ช่าจึงเก็บเงินออมไว้เป็นกระปุกเลยค่ะ”

“เราเจอคนขโมยเงินเลย คือเราพาเพื่อนมาเล่นที่บ้าน เขาก็เลยขโมยกระปุกเงินไปที่เราเก็บวันละ 2 บาท ซึ่งได้เป็นหลายร้อยมากเลย ตอนนั้นเสียใจร้องไห้เลยค่ะ ทุกความอดทนที่ฉันอดข้าวมา มันมีหลายครั้งที่มองดูเด็กคนอื่นกินขนมแล้วต้องหันหน้าหนี เพื่อที่เราจะเอาเงินไปทำสิ่งที่สำคัญกว่า ทุกอย่างที่อดทนใช้เวลานานมากมันหายไปเลย อย่างตอนเราไปอยู่สวีเดน เราอยากจะพรูฟตัวเองมาก เพราะตอนที่ทะเลาะกับพ่อเลี้ยง ซึ่งเขาเป็นคนดีนะ แต่มันมีโมเมนต์ที่เราทะเลาะกัน พอทะเลาะกันก็จะไล่ออกจากบ้าน เราเสียใจมากเพราะไม่มีที่จะไปก็ต้องง้ออยู่ดี ซึ่งมีโมเมนต์เดียวคือต้องเก่ง ก็เลยตั้งใจเรียนมาก ตั้งใจเรียนมากไม่พอต้องรวยด้วย มันเลยมีแรงผลักดันตรงนั้น อาจจะฟังดูผิดๆ นะ แต่ตอนนั้นมันเป็นอะไรที่เป็นแรงกระตุ้นช่าทุกวันเลย ถ้าช่าตื่นมาแล้วไม่สามารถมองตัวเองสำเร็จได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นคือวันที่ได้ The Face โอมายก๊อดได้เงินรางวัล 1 ล้านบาทมันเยอะมากนะ เพราะช่าถังแตกมาก่อนหน้านั้น ฉันได้อันดับหนึ่งนะ”