เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ทางการเมียนมาปล่อยตัวลูกเรือประมงไทย 4 รายแล้ว ว่า จากการที่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมการกงสุล เดินทางไปรอรับคนไทยทั้ง 4 คน ที่ชายแดน จ.ระนอง นั้น ฝ่ายเมียนมากำลังสอบสวนเพิ่มเติมว่าจะมีกระบวนการอื่นใดมาเกี่ยวข้องกับกรณีของเรือประมงลำดังกล่าวด้วยหรือไม่ และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี) ไทย-เมียนมา ยังอยู่ระหว่างการหารือและประสานงานกันในเรื่องมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวลูกเรือทั้ง 4 คน จากเกาะสอง มายัง จ.ระนอง โดยฝ่ายไทยต้องเคารพกระบวนการตามกฎหมายของเมียนมา ทั้งนี้คาดว่าคนไทยกลุ่มดังกล่าว จะได้รับการปล่อยตัวกลับสู่ประเทศไทยในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ได้รับการแจ้งว่าเมียนมาจะส่งเรือประมงกลับคืนให้ฝ่ายไทยเมื่อไหร่

เมื่อถามว่าการเจรจากับฝ่ายเมียนมา เพื่อขอให้ปล่อยตัวลูกเรือชาวไทยกลุ่มนี้มีเงื่อนไขใดหรือไม่ และมีกระแสข่าวว่าเรือประมงลำดังกล่าว อาจเกี่ยวข้องกับการขนอาวุธส่งให้กลุ่มว้าแดงด้วย นายนิกรเดช กล่าวว่า ตนขอชี้แจงว่า กรณีที่ฝ่ายไทยทำหนังสือถึงทางการเมียนมาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่การประท้วง เป็นการประสานงานในระดับเอกอัครราชทูต อย่างไรก็ตาม เรือลำนี้เป็นเรือประมงปกติ และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มว้าแดง อีกทั้งการส่งตัวคนไทยทั้ง 4 คนนี้ เป็นผลมาจากการเจรจาทางการทูต ไม่มีการเรียกค่าไถ่ตามที่มีกระแสข่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการที่ฝ่ายเมียนมากระทำการรุนแรงเกินกว่าเหตุ ฝ่ายไทยจะมีมาตรการตอบโต้หรือไม่ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในทางการทูต ความสำคัญอันดับแรก คือการรับตัวลูกเรือ 4 คนไทยกลับประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการอย่างสูงสุด ทั้งการเชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย มาหารือกับอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกมาพูดคุย ซึ่งเอกอัครราชทูตเมียนมาฯ รับรองว่าจะดูแลคนไทยอย่างดี นอกจากนี้การพูดคุยระหว่างนายมาริษ และนายตาน ฉ่วย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศเมียนมา ซึ่งรัฐบาลเมียนมาให้ความร่วมมืออย่างดี จนนำไปสู่การส่งตัวลูกเรือไทยมาที่เกาะสอง

เมื่อถามว่าฝ่ายเมียนมาย้ำเตือนฝ่ายไทยหรือไม่ เพื่อไม่ให้มีเรือรุกล้ำน่านน้ำอีก นายนิกรเดช กล่าวว่า รัฐบาลเมียนมาได้แสดงความกังวลมาตลอดว่ามีเรือประมงรุกล้ำน่านน้ำเข้าไปทำประมงในเมียนมา ซึ่งตามปกติ ทั้ง 2 ประเทศ จะมีคณะกรรมการทีบีซี และกลไกชายแดนหารือกัน เพื่อตักเตือนเรือประมงไม่ให้รุกน่านน้ำเมียนมา เพื่อป้องกันการถูกจับกุม.