สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีเคลาส์ โยฮันนิส ผู้นำโรมาเนีย ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า เขาจะดำรงตำแหน่งจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบใหม่
ทว่าชัยชนะของนายคาลิน จอร์เจสคู นักการเมืองคนนอกฝ่ายขวาจัด ในการเลือกตั้งรอบแรก เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ และทำให้ทางการโรมาเนียแสดงการคัดค้าน โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โยฮันนิสเปิดเผยเอกสารลับที่มีรายละเอียดข้อกล่าวหาต่อจอร์เจสคู และรัสเซีย รวมถึงการโปรโมตครั้งใหญ่บนสื่อสังคมออนไลน์ และการโจมตีทางไซเบอร์
ภายหลังการพิจารณาข้อมูลดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญโรมาเนีย จึงมีมติเอกฉันท์ ยกเลิกกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีทั้งหมด เพื่อทำให้แน่ใจว่า การเลือกตั้งดำเนินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
“กระบวนการข้างต้นได้รับความเสียหาย ตลอดระยะเวลาและขั้นตอนทั้งหมด จากความผิดปกติและการละเมิดกฎหมายการเลือกตั้งหลายครั้ง ซึ่งบิดเบือนการลงคะแนนเสียงอย่างเสรีและถูกต้องของประชาชน” ศาลรัฐธรรมนูญโรมาเนีย ระบุในคำตัดสิน
อย่างไรก็ตาม จอร์เจสคูตอบโต้คำตัดสินของศาล โดยกล่าวว่า การยกเลิกการเลือกตั้ง ถือเป็นการทำรัฐประหารอย่างเป็นทางการ และประชาธิปไตยของประเทศกำลังถูกโจมตี พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวโรมาเนีย ยึดมั่นในอุดมคติร่วมกัน
แม้ขณะนี้ยังไม่มีการประท้วงใด ๆ เกิดขึ้น แต่ชาวโรมาเนียหลายคนประณามคำตัดสินของศาล โดยกล่าวหาว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็น “เกมการเมือง” และนับเป็นการตบหน้าทุกคนที่ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ อีกทั้งมีความเสี่ยงที่จะทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนของจอร์เจสคู ไม่พอใจมากขึ้นด้วย.
เครดิตภาพ : AFP