สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียออกแถลงการณ์ ว่าเรือหลวง “เอชเอ็มเอเอส บริสเบน” ทดสอบการยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก ในเขตนอกชายฝั่งทางตะวันตกของสหรัฐ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นก้าวย่างสำคัญ ด้านการขับเคลื่อนนโยบายความมั่นคงของออสเตรเลีย
ขณะเดียวกัน การทดสอบดังกล่าวทำให้ตอนนี้ออสเตรเลียเป็น 1 ใน 3 ประเทศ นอกเหนือจากสหรัฐและสหราชอาณาจักร ที่มีขีปนาวุธโทมาฮอว์กและใช้งานจริง
ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรเลียประกาศ เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา จัดสรรงบประมาณกลาโหมเพิ่มอีก 11,100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 238,990.33 ล้านบาท) เพื่อยกระดับการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหมและกองทัพ ครอบคลุมระยะเวลา 1 ทศวรรษนับจากนี้
For a three ocean island-trading nation, there is no national security or economic security without strong maritime security.
— Chief of Navy Australia (@CN_Australia) December 10, 2024
BZ to the crew of #HMASBrisbane for the successful firing of a Tomahawk missile, during a test and evaluation activity off the coast of the US. pic.twitter.com/zgDFPKeI7H
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการพัฒนา คือ การเพิ่มจำนวนเรือรบ และขยายขอบเขตอุตสาหกรรมต่อเรือให้กับกองทัพเรือออสเตรเลีย โดยกำหนดเป้าหมายเพิ่มจำนวนเรือรบผิวน้ำเป็น 26 ลำ ภายในสิ้นปี 2586 จากปัจจุบันซึ่งมีอยู่ที่ 11 ลำ
นอกจากนี้ ออสเตรเลียมีแผนต่อเรือฟริเกตชั้นฮันเตอร์ 6 ลำ เรือฟริเกตอเนกประสงค์ 11 ลำ และเรือพิฆาตพื้นผิวน้ำ 6 ลำ โดยจะมีการติดตั้งระบบขีปนาวุธโทมาฮอว์กบนเรือรบบางลำด้วย.
เครดิตภาพ : AFP