เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) การนัดประชุมคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคี ในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ เพื่อพิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาททั่วประเทศ ว่า การประชุมดังกล่าว จะเป็นการนำนโยบายของรัฐบาลมาหารือ ซึ่งหากทุกฝ่ายเห็นด้วยและมีมติผ่าน ก็จะดีที่สุด แต่ถ้าประชุมในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ไม่ได้ ก็ยังสามารถเรียกประชุมอีกครั้งในวันที่ 23 ธ.ค. นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ตนเดินทางกลับจากการไปประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว โดยตนคาดว่าการประชุมบอร์ดไตรภาคีจะผ่านไปได้ด้วยดี ทุกอย่างจะเรียบร้อย ส่วนแนวทางการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะออกมาเป็นแนวทางอย่างไรนั้น ขอให้รอดูผลการประชุม และเมื่อบอร์ดไตรภาคีให้ความเห็นชอบแล้ว จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ทั้งนี้ตนยืนยันว่าจะเสร็จทันเป็นของขวัญปีใหม่ เพราะตนได้หารือกับปลัดกระทรวงแรงงานเป็นที่เรียบร้อย

เมื่อถามว่าตัวแทนฝ่ายจ้างยืนยันว่าไม่อยากให้ปรับขึ้นค่าจ้างในขณะนี้ ฝ่ายรัฐบาลจะต้องหารือนอกรอบกับฝ่ายจ้างก่อนหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราคงต้องยืนยันแนวทาง โดยปลัดกระทรวงแรงงานได้พูดคุยนอกรอบแล้ว ซึ่งมีแนวโน้มที่ดี ทั้งนี้ รัฐบาลมีวิธีการและแนวทางที่จะทำให้เกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจน้อยที่สุด แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าภาคเอกชนกังวลว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะทำให้เกิดปัญหาแรงงาน รวมถึงราคาของจะแพงขึ้น และจะมีการย้ายฐานการผลิต นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เขามีการย้ายอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีส่วนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นปกติทุกปี ดังนั้น เราต้องเข้าใจ แต่ที่กังวลมากๆ คือ เรื่องการผลิตรถยนต์ เพราะมีผลกระทบเรื่องอะไหล่ ซึ่งกระทรวงแรงงานพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด ขณะนี้กำลังศึกษาแนวทางจากที่เคยใช้เมื่อปี 55 อยู่ และต้องหารือกับนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามถึงของขวัญปีใหม่ของกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า มี แต่ขอให้ทุกอย่างสะเด็ดน้ำ แล้วจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. สัปดาห์หน้า