สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่า นายเทรุมิ ทานากะ ผู้รอดชีวิตจากเมืองนางาซากิ วัย 92 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในประธานร่วม 3 คน ของนิฮง ฮิดังเกียว เรียกร้องให้รัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมาย “โลกปลอดนิวเคลียร์”

“ผมรู้สึกเสียใจและโกรธเคืองเป็นอย่างยิ่ง จากการที่ข้อห้ามเรื่องนิวเคลียร์จะถูกละเมิด” ทานากะ กล่าวกับผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลโนเบล ณ ศาลาว่าการกรุงออสโล

อนึ่ง รางวัลดังกล่าวถูกมอบให้ในช่วงเวลาที่ประเทศต่าง ๆ เช่น รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีคลังอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามทางปรมาณูที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นิฮง ฮิดังเกียว ดำเนินงานเพื่อกำจัดอาวุธทำลายล้างสูงให้หมดไปจากโลก โดยอาศัยคำให้การของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่สหรัฐทิ้งระเบิดใส่เมืองฮิโรชิมา และเมืองนางาซากิ เมื่อวันที่ 6 และ 9 ส.ค. 2588 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนถึง 214,000 ราย และทำให้ญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง

“ขบวนการของเรามีบทบาทสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย ในการสร้างข้อห้ามนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังคงมีหัวรบนิวเคลียร์ 12,000 ลูกบนโลก ซึ่งในจำนวนนี้ 4,000 ลูก ถูกนำไปใช้งานจริง และพร้อมสำหรับการยิงในทันที” ทานากะ กล่าวเพิ่มเติม

ทั้งนี้ สถาบันโนเบล ระบุว่า เอกอัครราชทูตประจำกรุงออสโลทุกคน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลดังกล่าว แต่ประเทศมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่เข้าร่วม มีเพียงสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, อินเดีย, ปากีสถาน และสหรัฐ ขณะที่ตัวแทนจากรัสเซีย, จีน, อิสราเอล และอิหร่าน ไม่ได้เข้าร่วมพิธีการแต่อย่างใด.

เครดิตภาพ : AFP