สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ว่านายสตีเฟน โจนส์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังออสเตรเลีย กล่าวว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างจัดทำแผนการอย่างละเอียด เพื่อให้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง โดยเฉพาะเมตา ติ๊กต็อกและกูเกิล ต้องจ่ายเงินค่าข่าวให้กับผู้ผลิตสื่อของออสเตรเลียที่เป็นเจ้าของเนื้อหา หากมีการนำเนื้อหาเหล่านั้นไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม
หากบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เห็นด้วย และไม่ปฏิบัติตาม หรือไม่หาทางบรรลุข้อตกลงกับสำนักข่าวในออสเตรเลีย โรว์แลนด์กล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียอาจใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีจากผู้ประกอบการข้ามชาติ ในกรณีมีรายได้มากกว่าปีละ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,413.84 ล้านบาท)
#BREAKING: Social media giants Meta, Google and TikTok owner ByteDance will be forced to pay Australian media companies for journalism under a revised news media bargaining code.
— 9News Australia (@9NewsAUS) December 12, 2024
The Albanese Government today unveiled the strengthened "incentive" to encourage deals between the… pic.twitter.com/sBtQoLLsrZ
ทั้งนี้ หลายภาคส่วนในออสเตรเลียพยายามเคลื่อนไหวมานานแล้ว ให้บริษัทเทคโนโลยี “ชดเชย” ให้กับสำนักข่าวและผู้ผลิตสื่อในประเทศ เป็นค่าเนื้อหาข่าว จากการที่เมตา ติ๊กต็อก และกูเกิล นำไปแบ่งปันต่อบนแพลตฟอร์มของตัวเอง และยังคงเป็นกรณีพิพาท ระหว่างรัฐบาลออสเตรเลียกับบริษัทด้านเทคโนโลยีเหล่านี้
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา รัฐสภาออสเตรเลียรับรองกฎหมายห้ามบุคคลมีอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ทุกประเภท
เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ภายในระยะเวลาอีก 12 เดือนนับจากนี้ จะทำให้ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกของโลก ที่มีการบังคับใช้กฎหมาย “เจาะจง” ห้ามประชาชนในบางกลุ่มอายุใช้งานสื่อสังคมออนไลน์
ผู้ประกอบการแห่งใดที่ไม่ปฏิบัติตาม อาจต้องเผชิญกับค่าปรับสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1,085.57 ล้านบาท) เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากทั้งเมตา เอ็กซ์ กูเกิล และติ๊กต็อก.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES