ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำเอานักแสดงสาวถึงกับหัวร้อนไม่น้อย แถมอารมณ์เดือดพุ่งปรี๊ดเลยทีเดียว สำหรับ คริส หอวัง หลังจากที่ออกมาอัดคลิป เผยเหตุการณ์แย่ๆ บนท้องถนนมา โดยสาวคริส ได้เล่าถึงเรื่องขณะที่เธอขับรถแล้วติดอยู่ตรงยูเทิร์น จึงทำให้เกิดเรื่องราวที่ไม่คาดคิดมากมายเลยทีเดียว ซึ่งเหตุเกิดจากการบีบแตรแค่ปิ๊นเดียว ทำเอาชายหัวร้อน จนชูนิ้วกลางให้ พร้อมกับปรี่เข้ามาหา ตามที่เคยนำเสนอข่าวแล้วนั้น
‘คริส หอวัง’เจอเรื่องไม่คาดคิด หนุ่มหัวร้อนขับตาม-ชูนิ้วกลางใส่ เหตุเพราะเสียงแตรปิ๊นเดียว!

ล่าสุดในงาน Mirror 50 “POWER OF NOW : ตอนนี้แหละ เริ่มเลย” คริสได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึงเรื่องราวที่เพิ่งไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ “วุ้นเส้น วิริฒิพา” ในงานแต่งงาน โดยคริสเผยว่า

“งานแต่งวุ้นเส้นเรียกได้ว่า รวบรวมดาวเต้น พูดจริงๆ นะ วันนั้นประมาณ 50 เมตรอะ ใช้เวลาชั่วโมงหนึ่งกว่าจะเดินถึง พอดีรู้จักไปหมดเลย แล้วเราอยากคุยไปหมดคนเยอะมาก 3 ก้าวยืนคุย 3 ก้าวยืนคุย แต่ก็ไม่ทิ้งลายแม่เสือสาว (หัวเราะ) อุ้ย พูดได้ไหมอะ ก็มีความอ่อมนิดหนึ่งนะ เต้นไปเพลงหนึ่งแล้วก็นั่งๆ สมัยก่อนคือสุด แต่ตอนนี้ก็เหนื่อยเหมือนกันพักแป๊บหนึ่ง (หัวเราะ) ถึงเวลาเหนื่อยของเราแล้ว ก็ถอดรองเท้าอะค่ะ ขนาดถอดรองเท้าก็แล้วคิดดู นี่ระดับครูสอนเต้น แต่ครูสอนเต้นให้เป็นอดีต (หัวเราะ) หันไปดูพี่ทาทาดีกว่ายังเต้นยับอยู่เลย ส่วนสาเหตุที่เราไม่ได้ช่อดอกไม้เจ้าสาว ตอนเขาเรียกว่าจะโยนช่อดอกไม้เดินกลับมาจากห้องน้ำพอดี แล้ววุ้นเส้นพูดออกมาว่าเหมือนคุ้นๆ มันมีใครโสดอีกตั้งหลายคน แล้ววุ้นอยู่บนเวทีไกลๆ คริสก็ยืนจอดอยู่กับที่เลย อย่าไปใกล้เดี๋ยวมันนึกได้ เดี๋ยวมันเรียกชื่อเรา ไม่ใช่อะไร ก็อยากนะวันหนึ่งก็อยากแต่งงาน แต่ว่าถ้าเราดันรับดอกไม้ได้วันนี้ ฉันต้องท้องเท่านั้นค่ะตอนนี้ เพราะว่าไม่มีแฟนไง แล้วถ้าเกิดได้รับดอกไม้แล้ว ฉันต้องเป็นคนต่อไป สงสารคนระหว่างนี้ไปถึงฉันไหม ไม่ต้องมีใครแต่งงานเลยเนาะ ไอ้ที่ยืนน่ะก็เลยให้เขารับกันไปก่อนค่ะ”

“สำหรับเรื่องรถที่เล่าใน TikTok ว่าเกือบมีเรื่องจากการบีบแตรหนึ่งครั้ง ทำให้โดนอีกฝ่ายลงมายืนจ้องหน้าแล้วชูนิ้วกลางให้ จริงๆ มันไม่มีอะไรเลย คือมันเป็นเรื่องที่เหมือนทุกคนที่อยู่บนท้องถนนน่าจะเคยเจอกันอยู่แล้ว เรื่องการบีบแตรจริงๆ การบีบแตรหนึ่งปิ๊นมันเป็นการเตือนเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ในรถคันเดียวกัน เราก็ไม่รู้ บางทีคนบีบแตรเราเพราะไฟแดงแล้วเราก้มไปหยิบโทรศัพท์ตอบคอมเมนต์หรืออะไรก็แล้วแต่แล้วเงยหน้าขึ้นมา อุ๊ย..ตายแล้วไฟเขียวพอดีเลย เขาเตือนเรา อันนี้คือคนอารมณ์ดีใช่ไหม แต่อย่างพี่คนนั้นที่คริสเจอวันนั้น แกน่าจะโลกน่าจะไม่น่ารักกับแกมากๆ แต่เผอิญวันนั้นโลกไม่ได้ทำคริสไง คริสก็เลยหัวเราะได้แต่เหตุการณ์นั้นทำให้คริสรู้สึกว่าแล้วถ้าคนที่เขาเจอโลกทำร้ายมาเหมือนกันล่ะ แล้วเขามายืนแบบนี้เขาไม่ยิงกันตายเหรอ คือเขาก็โมโหมาก เขาชูนิ้วกลางเขาพูดคำหยาบตะโกนมา เราคนปกติคริสก็ไม่แสดงเนอะ คริสก็มีน้ำโหเหมือนกัน เขายกโทรศัพท์ ฉันก็ยกโทรศัพท์เลย (หัวเราะ) เขาถ่ายได้ ฉันก็ถ่ายเหมือนกัน พี่เอาเลยค่ะอะไรแบบนี้ ก็ตามคลิปในติ๊กต็อกเลย แต่ว่าคริสก็ไม่ได้จะไปมีเรื่องกับเขาไม่ลงจากรถไม่อะไรอยู่แล้ว แต่คริสอยู่บนถนนวิทยุ ดูโหนกระแสเยอะ คริสรู้ว่ามันมีกล้องทุกมุม ถามว่าเขารู้ไหมว่าเราเป็น คริส หอวัง อันนี้เขาน่าจะวีนก่อน ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเป็นหนู แต่ตอนที่เปิดกระจกแล้วหนูก็ยกโทรศัพท์ก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นหน้าหนูหรือเปล่า เราเปิดกระจกไปก็ไม่กลัว เพราะหนูอยู่ถนนวิทยุพี่แล้วฝั่งตรงข้ามเป็น สน. ค่ะ รถมันติดแล้วค่ะ บนท้องถนนคริสรู้ว่าบางทีมันมีคนขับรถแย่จริงแต่บางทีก็ต้องใจเย็นบ้างมันอันตรายค่ะ คริสอยู่คนเดียวค่ะ คนเดียวอยู่แล้วไม่งั้นไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหรอก เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพราะเรากลัวนั่นแหละ เราก็ต้องมีหลักฐานของเราไง อยู่คนเดียวแต่เราก็กล้าสู้ หนูไม่ได้ลงจากรถ คือรถมันติดคนเต็มเลย หนูเยอะไปไหมอะเยอะเหมือนกันใช่ไหม แต่ตอนนั้นหนูคิดจริงนะว่า คุณพุทธ หรือว่าพี่หนุ่ม ต้องช่วยฉันได้ เพราะถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้น ฉันอยู่ตรงข้าม สน. เลย กล้องวงจรปิดมันต้องเยอะมากแล้วเป็นสะพานลอยตรงไฟแดง แต่ว่าโอเคคริสก็ไม่ควรจะหยิบโทรศัพท์มาอัดกับเขา เขาโมโหหรือแกล้งหรือกวนประสาท ในทางที่ดีคริสก็ไม่ควรที่จะไปวุ่นวายอะไรกับเขา ควรจะปิดกระจกแล้วไม่สนใจเขาไปเลย แต่หนูแค่คิดว่าเขาเป็นเยอะเกินไป คริสคิดว่าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่ว่าจริงๆ คริสก็อาจจะเฮี้ยวไปนิดหนึ่ง (หัวเราะ)”

“คือถ้าเกิดว่าไปเจอคนที่อารมณ์เสียบวกกับอารมณ์เสียมันพังจริงๆ นะ แต่วันนั้นคริสก็แค่ เขาหยิบโทรศัพท์ คริสก็หยิบโทรศัพท์ สุดท้ายคือมันไม่ถึงตีอยู่แล้วเพราะถ้าเขาลงจากรถมา หนูก็ปิดกระจกแล้วหนูก็กรี๊ด แล้วคริสไม่ได้คิดว่าจะลงไป แต่ถ้าคริสเป็นคนที่โลกทำร้ายมาเหมือนกันล่ะ แล้วทำเท่าเขามันไม่ปะทะกันแย่เลยเหรอ ก็ฝากไว้แล้วกันนะคะ สิ่งที่คริสทำมันอาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่โต้ตอบดีที่สุด คริสไม่คิดจะลงจากรถไม่คิดจะว่าเขา ไม่คิดจะเอาคลิปพี่เขามาลงหรืออะไรใดๆ หรอก เพียงแต่รู้สึกว่ามันเป็นอุทาหรณ์ของคนที่อยู่บนท้องถนนว่าไม่ใช่คุณคนเดียวที่โลกไม่น่ารักกับคุณ เราก็ไม่รู้ไงว่าใครเจออะไรมาบ้างบนโลกใบนี้ก็ใจเย็นๆ หน่อย เหตุผลที่ตอบโต้เขาคือตอนนั้นหนูโมโหหนูพูดจริง ตอนนั้นหนูก็โมโหแล้วค่ะเพราะว่า เขาชูนิ้ว แล้วหนูก็ผ่านไปแล้ว แล้วไปติดไฟแดงเขาก็ไปเลี้ยวไปปาดมาอะไรแบบนี้ หนูก็โอเคค่ะ แล้วพอเขามาจอดข้างๆ แล้วเขายกมือถือหนูก็เลยยกมือถือบ้าง ถามว่าเจอแบบนี้บ่อยไหม ไม่บ่อยค่ะ จริงๆ คิดว่าบีบแต่ปิ๊นเดียวไม่ทำให้คนแบบอย่างมากเขาก็ด่าในรถไงซึ่งเราไม่ได้ยิน”



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก crishorwang