สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ว่าสำนักงานกิจการการเมืองของรัฐบาลเปลี่ยนผ่านซีเรียออกแถลงการณ์ ขอบคุณ อียิปต์ อิรัก ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จอร์แดน บาห์เรน โอมาน และอิตาลี ซึ่งกลับมาเปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงดามัสกัส
Syrian Political Affairs Department thanked Egypt, Iraq, Saudi Arabia, UAE, Jordan, Bahrain, Oman, and Italy for keeping their embassies open in Damascus.
— Clash Report (@clashreport) December 12, 2024
They also confirmed that Türkiye and Qatar will be re-opening theirs soon. pic.twitter.com/tEShVNjrYk
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ออกแถลงการณ์ เตรียมกลับมาเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่ซีเรีย “ภายในอนาคตอันใกล้นี้” หลังปิดไปเมื่อเดือน ก.ค. 2554 หรือเพียงไม่กี่เดือนหลังสงครามกลางเมืองในซีเรียปะทุ
ทั้งนี้ กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเป็นแกนนำของฝ่ายกบฏซีเรีย ในการโค่นอำนาจประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ประกาศในสัปดาห์นี้ แต่งตั้งนายโมฮัมเหม็ด อัล-บาเชียร์ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน โดยมีการระบุชัดเจน ว่าบาเชียร์ จะดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่ 1 มี.ค. 2568 และมีภารกิจหลักคือ “การฟื้นฟูเสถียรภาพ”.
เครดิตภาพ : AFP