เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 ที่ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (รรท.ผบช.ภ.2) พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 (ผบก.สส.ภ.2) แถลงผลการทลายเครือข่ายมังกรเทาดำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหิมเกริมเปิดออฟฟิศในทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี ซึ่งจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 โดยล่าสุดกองบังคับการสืบสวนสวนตำรวจภูธรภาค 2 ขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มเติม 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย ชาวจีน 1 ราย ยึดทรัพย์รวมมูลค่า 152 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช. ให้ความสำคัญในการสืบสวนขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นหลังจากทลายจับกุมแก๊งมังกรเทาดำ ที่ลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.ชลบุรี ได้แล้ว จึงขยายผลยึดทรัพย์ต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพนักงานออฟฟิศ จำนวน 11 คน 2.กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชี, ยิงแอดโฆษณา) จำนวน 15 คน และ 3.กลุ่มบอส หรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 20 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 15 คน ซึ่งบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม

“จากการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายนี้แปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชน เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) จากนั้นจะโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่าง ๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการ ซึ่งเป็นชาวจีน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่าง ๆ รวมถึงประกอบกิจการในนามบริษัทนอมินี โดยใช้บริษัทนอมินีที่เปิดขึ้นมาซื้อ และถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบ นำไปสู่การติดตามจับกุม และตรวจสอบยึดทรัพย์สิน ดำเนินการตามกฎหมาย” รรท. ผบช.ภ.2 กล่าว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม 2567 ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์มังกรเทาดำ เพิ่มเติม 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย คนจีน 1 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินที่สำคัญดังนี้

1.บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 12.5 ตรว. ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 65 ล้านบาท 2.บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 6.2 ตรว. ม.10 ต.หนองหรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท 3.รถยนต์ LEXUS สีขาว มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท 4.รถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีขาว มูลค่า 3.5 ล้านบาท 5.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีดำ มูลค่า 4 แสนบาท และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมทั้งหมดมูลค่ากว่า 152 ล้านบาท

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า ได้เร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้คนไทยที่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น รับจ้างเปิดบัญชีเป็นธุระจัดหาซิมผีบัญชีม้า รวมถึงการเข้าไปร่วมทำธุรกิจหรือถือครองทรัพย์สินซึ่งอาจเข้าข่ายนอมินี จะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากความผิดเรื่องคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ. 2542 ด้วย

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูล เบาะแส ชาวต่างชาติ หรือคนไทยต้องสงสัยเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจภูธรภาค 2”