นับว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่เปิดตัวหวานส่งท้ายปี สำหรับนักแสดงสาวจิตอาสา “ต่าย สายธาร” ที่วันนี้ออกมาประกาศกำลังคบผู้สื่อข่าวช่องดัง “ตั้ม ผดุง” แถมตอนนี้ยังคลั่งรักแบบสุดๆ พร้อมย้อนเล่าจุดเริ่มต้นรักครั้งนี้ ได้มาเพราะเพื่อนเป็นพ่อสื่อ รวมไปถึงความประทับใจ พาไปเจอ “แม่สีดา” ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow เรียกได้ว่าหวานคลั่งรักกันสุดๆ
โดยหนุ่มตั้มได้เผยถึงครั้งแรกที่เจอกับสาวต่ายว่า “เป็นแฟนคลับของคุณต่าย ตั้งแต่หนังเรื่องแรกๆ ที่ต่ายเล่น ปลื้มที่เขาสวยมาก เคยเจอที่รายการ ตอนนั้นเป็นบรรณาธิการ เขาจำไม่ได้แต่เราจำได้ทุกอย่างเลย ที่ตอนนั้นไม่จีบคือตอนนั้นเราขี้อาย จีบผู้หญิงไม่ค่อยเก่ง ตอนแรกที่เขามาออกรายการแล้วก็นั่งมองเขาอยู่ แต่เขาค่อนข้างจะวิชาการหน่อยหนึ่ง เพราะตอนนั้นเขาเพิ่งไปช่วยคดีแตงโมมา ตอนเจอเขาครั้งแรกไม่มีความคิดว่าจะจีบเขา ไม่เคยเลย ไม่ได้อยู่ในหัวสมองด้วย เพราะว่าเรามันคนธรรมดาและเขาเป็นดาราด้วยระดับนางเอก รู้ว่าชอบแต่ไม่กล้าคิด ได้มาคุยกันเพราะเพื่อนของผมเป็นพ่อสื่อให้ วันนั้นไปดูคอนเสิร์ต “เสก โลโซ” พอดีเจอเพื่อนอยู่บนเวทีพอดี ก็เลยโทรฯ เรียกเพื่อนลงมาหน่อย จะให้ลงมาคุยกัน เพื่อนก็บอกว่าตั้มโสดนิ ต่ายก็โสด เขาก็ไม่รู้ว่าผมแอบชอบต่ายอยู่ถามโดยไม่รู้เลย พอเขาพูดก็รู้สึกฮึกเหิมแบบมีพ่อสื่อแล้ว เขาก็โทรฯ ไปหาต่ายเลยให้รับเฟซผม ให้รับเพื่อนทันทีเลย ผมทักก่อน ก็ทักไปว่าสวัสดีก่อน มาในแนวนอบน้อมก่อน และเพื่อนที่ชื่อกบ เขาก็คุยให้ก่อนว่าต้องคุยกับตั้มนะ เขาก็คุยให้ก่อนประมาณหนึ่ง เราก็เริ่มคุยกัน ไม่กี่วันนัดเจอกันครับ ตอนนั้นผมเสนอตัว ไปถ่ายละคร ผมก็เลยบอกว่าเดี๋ยวไปรับ เพราะว่าเขาเลิกดึกสี่ทุ่ม”
ต่าย เผยว่า “พอพี่กบบอกให้รับเฟซพี่ตั้มก็รับเลย คือกบอ่ะเขาบอกว่านี่คือโค้งสุดท้ายของชีวิตแล้วนะ แล้วก็บอกว่าอย่าเพิ่งคุย ไปรับแอดเขาก่อน คนนี้นะ แล้วก็ส่งโปรไฟล์มาให้ดู และใช้แชตเฟซคุยกันก่อน ตอนที่เห็นก็ได้นะ ตอนนั้นต่ายอยู่คนเดียว แล้วก็เขาอยู่กับเพื่อน เพื่อนก็บอกให้รับเลย ก็คุยกันเลยอะไรอย่างเงี้ย คุยกันวันเดียว เปิดแชตวิดีโอคอล คือแบบ.. มันจะมีประโยคที่กบคอยย้ำ เออเนี่ยโค้งสุดท้ายแล้ว ลองสักตั้งละกัน ไม่รู้ตอนนั้นมันอาจจะคลิกด้วยแหละเพราะว่า เออก็มีความรู้สึกว่าอยากคุยนะ ทั้งๆ ที่ต่ายจำเขาไม่ได้จำว่าเราเคยไปออกรายการอะไรด้วย เขาก็ทักมาแล้วก็คุยไปคุยมา วันที่เขาไปดูคอนเสิร์ตเขาก็จะไปดู แต่เขาก็ไม่ได้ดู แล้วก็คุยกันอีกวันนึงก็วีดีโอคอลคุยกันจนตี3-4 คือถ้ามี 24 ชั่วโมงเราก็คุยกันไป 22 ชั่วโมงแล้ว เอาจริงๆนะตอนนั้นก็ปรึกษาเพื่อนๆ ในกองถ่าย เพื่อนรักช่างแต่งหน้า เขาก็บอกว่าแม่ต้องให้เขามานะ ซึ่งต่ายก็ไม่มีฟีลนั้นมานาน ที่มีคนมารอรับที่กอง พอเปิดประตูมาเจอกันครั้งแรก เรายกมือไหว้เขา (หัวเราะ) คนมีมารยาท เราเจอเขาเราก็สวัสดี ตอนนั้นก็เขินบรรยากาศเป็นสีชมพู คือตอนไปกองถ่าย เขาก็วิดีโอคอลมา แต่วันนั้นเราถ่ายทั้งวัน ก็ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่ บทก็ยาวมาก ก็ส่งมาให้เขาดูขอกำลังใจ เพราะเราไม่มีอะไรคุย ก็ตอนนั้นคุณตั้มเขาไม่ทราบเลยว่าเราอ่ะนัดคุณแม่สีดากับเพื่อนๆ ทีมงาน นัดไว้ประมาณห้าคน แต่พอไปถึงมีเป็น 10 เยอะค่ะ คือตอนนั้นพี่ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า ตอนนั้นทีมงานก็ถามว่าพี่เขย แม่ก็ถามว่านี่ลูกเขย แต่เขาอยู่เป็น วันแรกที่เจอกันมันเบลอไปหมด มันวิ้งๆ ไปหมด คือด้วยความที่คุยกันตั้งแต่วันแรกที่ทักแชตมา แทบไม่ได้วางโทรศัพท์เลยอะค่ะ คุยวิดีโอคอลคุยตอนไปต่างจังหวัด เขานั่งรถตู้ไปก็คุยกันตลอด ทส่วนมากแม่จะบอกว่าต่ายทำตัวใหม่นะลูก ผู้หญิงนะลูก ทุกวันนี้เราก็เป็นผู้หญิงนะแม่ เมื่อคืนนี้แม่เองก็มานอนด้วย ก็พูดว่าให้เป็นผู้หญิงนะลูก ตั้มก็เคยบอกว่าถ้าวันหนึ่งนะ ไปบ้านเขา แม่ก็บอกว่าหัดทำอาหารนะลูก ทุกวันนี้เราไม่ใช่ลูกแล้ว ตั้มเขาคือลูก ตอนนั้นก็เป็นวันเกิดของคุณพ่อ ไปเจอครั้งแรกครั้งแรกเหมือนกัน เราอ่ะคือต้องอวยพรให้คุณพ่อใช่ไหม แต่คุณพ่อมาเจอเรา ก็มาจับแขนเราตอนนั้น เราหูดับไปแล้ว พ่ออวยพรเรา ทำนองว่าขอให้คบกันไปนานๆ นะลูก อึ้งๆ อยู่ ก็ขอบคุณคุณพ่อ ก็บอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณพ่อนะคะ ไม่ใช่คุณพ่อมาอวยพรให้หนู คือผู้ใหญ่เขาเมตตาก็ต้องขอบคุณคุณพ่อด้วยนะคะ”
ตั้ม ผดุง เผยต่อว่า “ตอนนั้นคิดว่าไปกันสองคน ไม่คิดว่าจะถูกซ้อนแผน ตอนเข้าไปก็ยิ้มก่อนเลยไม่คิดว่าจะได้เจอแม่สีดา เขาก็พูดว่านี่หรือลูกเขยฉัน พูดคำนี้เลย เราก็ตอบไปว่า ‘ใช่ครับ’ ตอนนั้นต่ายก็ไปเข้าห้องน้ำทิ้งผมเลย แม่สีดาเขาก็ถามว่านี่เหรอลูกเขย เราก็ตอบไปว่าครับ แล้วก็นั่งคุยกันแล้วก็ถามไปรับเขาจากไหนมา รอนานไหมล่ะ ไม่ดุ วันแรกที่ไปเขาก็ซีเรียสนะ ปกติผมก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ก็รักทุกคน ใครที่เป็นครอบครัวเรา เป็นมิตรกับทุกคนง่าย ก็แฮปปี้ดีครับ คุณพ่อก็ชอบเขาอยู่เหมือนกัน ก็เคยดูหนังเขาอยู่เหมือนกัน ก็อยากมีคนดูแลเราบ้าง เพราะว่าผมค่อนข้างที่จะไปไหนมาไหนคนเดียวตลอด ขับรถไปไหนมาไหนต่างจังหวัดก็ไปคนเดียวตลอด เดินทางคนเดียว ช่วยเหลือสังคมก็ไปคนเดียวตลอด”
ต่าย สายธาร เผยต่อว่า “ตัดสินใจเปิดตัวด้วยการลงรูปคือมันเป็นการให้เกียรติ แล้วต่ายต้องบอกกับทุกคนนะคะ ว่าไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาสนใจมากมายขนาดนี้ ต้องขอบคุณมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเอฟซีหรือเพื่อนๆ Feedback ที่ได้กลับมามีแต่ความสุขจอยๆ รอยยิ้ม มันก็ทำให้เรารู้สึกว่ามีรอยยิ้มไปด้วย เราก็เลยบอกไปว่ารอยยิ้มของเอฟซีแฟนคลับที่มีความสุขก็ทำให้เรามีความสุขไปด้วย โตแล้วทั้งคู่ ด้วยวัยเราเลยอยากทำให้มันเป็นพลังบวกให้กันมากกว่า ความรักไม่ว่ามันจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแบบพ่อแม่ หรือรักในสังคม อยากให้เป็นเมตตา และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นความรักของพวกเราสองคนมันก็จะแบ่งปันเพื่อที่จะไปช่วยเหลือสังคมได้ด้วย อะไรที่เป็นพลังบวกเราจะเซฟเก็บไว้ จะเป็นพลังบวกให้กันและกัน อะไรที่มัน Toxic เราจะตัดออก”
“ได้ช่อดอกไม้งานแต่งงานของเพื่อนสนิทเลย คือมันเป็นเรื่องที่ถามตู่วันนั้นว่าเตรียมกับใครหรือเปล่า แบบอยากให้เราได้รับช่อดอกไม้ เขาก็บอกว่าไม่มี คือเป็นครั้งแรกครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้ มันเหมือนเป็นอาถรรพณ์ ต่ายเชื่อว่าบนโลกนี้ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความรักดีๆ รูปที่ต่ายโพสต์คู่กับตั้ม ความในใจประมาณว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม มันมีพลังต่างๆ ที่ทำให้เรามีแรงก้าวเดินหรือทำงานใช้ชีวิตต่อไป อะไรที่เป็นพลังบวกเราจะเก็บไว้ อะไรที่เป็นพลังลบเราจะตัดออก ตามนั้นเลย ก็เขียนไปก็น้ำตาคลอ เพราะเราเป็นคนเซนซิทีฟด้วย จริงๆ แล้วประเด็นสำคัญคือ เราไม่รู้หรอกว่าวันพรุ่งนี้จะมีจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้นเรามีโอกาสได้มาเจอกันมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเหวี่ยงใครสักคนมาให้เรา เพราะฉะนั้นถ้าเราเจออะไรที่มันดีแล้วก็ควรที่จะรักษาไว้ เราไม่รู้หรอกว่าตื่นมาพรุ่งนี้เราจะเจอเขามั้ย เราไม่รู้หรอกค่ะว่าใครคลั่งรักมากกว่ากัน แต่มันเป็นความรู้สึกที่แชร์ความรักให้กับเขาแล้วก็ครอบครัวเขาด้วย จริงๆ ก็พอๆ กัน แต่พี่ตั้มเขาจะไม่ค่อยแสดงออก คนคงไม่คิดว่าเรามาเจอกันแล้วจะมุ้งมิ้ง เพราะต่ายก็เป็นกู้ภัยเขา ก็อยู่ในสายข่าว มุมมองของความรักเปลี่ยนไปเยอะ เมื่อก่อนมีแบบเอาชนะ แต่ความรักไม่ใช่การเอาชนะหรือมาแข่งกันเอาเหรียญทอง เราคุยกันต่ายจะไม่ชอบทะเลาะ มีง้องแง้งนิดหน่อยถ้าคีย์เปลี่ยนไม่ได้เลย แล้วก็ไม่ทะเลาะนะ ถ้ารู้สึกว่าผิดก็ขอโทษๆ อย่างเงี้ย แล้วก็รับโทษ ก็หอมแก้มกันไป ความรักมันอยู่ที่เราสองคนมากกว่า ก็ยอมค่ะแต่ว่าสักพักหนึ่ง เพราะต้องปรับตัวก่อน แต่ก็อยู่ด้วยแหละ ส่วนความในใจเขาเป็นของขวัญคริสต์มาสทั้งของขวัญส่งท้ายปีทั้งวันเกิด ทั้งตอนนี้เขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว 2 มกรา ก็วันเกิดต่าย ก็ตั้งใจจะไปทำบุญกัน”
ตั้ม ทิ้งท้ายว่า “ทุกวันนี้คนโทรฯ มาถามถึง 40 คนได้ พยายามออกไปข้างนอกเพื่อไม่ให้เจอใคร ตอนนี้ก็ตอบครบทุกคนครับ ก็เล่นมุกไปว่าทำไมหน้าเหมือนเราจัง แกล้งไม่ยอมรับ ก็เรื่องจริงครับ ก็คือผมชอบเขา คบกับเขามันคือเรื่องจริงครับ ก็ดีใจที่เขารักเราจริง ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกสักเท่าไหร่ ไม่ค่อยเข้าไปโพสต์หรือคอมเมนต์อะไรเท่าไหร่ ก็อยากจะบอกว่าเป็นห่วงเขา เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่ในห้องคนเดียว เป็นห่วงเขาเรื่องสุขภาพ เขามีโรคประจำตัวแล้วก็ป่วย ก็อยากให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่ว่าไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า เรื่องแต่งงานนี้มันเป็นเรื่องของอนาคต รอไว้คุยกันสองคนก่อน”


ขอบคุณภาพประกอบจาก : คุยแซ่บshow