สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ว่า บริษัท บีเออี ซิสเตมส์ ของสหราชอาณาจักร, บริษัท ลีโอนาร์โด ของอิตาลี และบริษัท เจแปน แอร์คราฟต์ อินดัสเทรียล เอ็นแฮนซ์เมนต์ จำกัด (เจเอไออีซี) ประกาศในการแถลงข่าวว่า แต่ละบริษัทจะถือหุ้น 33.3% ในการร่วมทุนครั้งใหม่นี้ ซึ่งถือช่วงเวลาสำคัญของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศระหว่างประเทศ และการป้องกันประเทศ
“ข้อตกลงในวันนี้ เป็นผลจากการทำงานร่วมกันกับหุ้นส่วนในอุตสาหกรรม เป็นเวลานานหลายเดือน และแสดงให้เห็นถึงการทำงานหนักของทุกคน ซึ่งเกี่ยวข้องในโครงการที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์เช่นนี้” นายชาลส์ วู้ดเบิร์น ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบีเออี ซิสเตมส์ กล่าว
The UK, Japan and Italy formalize their planned venture to build a new generation fighter jet that the countries expect to deliver in a decade https://t.co/BwknNzGguj
— Bloomberg (@business) December 13, 2024
วู้ดเบิร์น ระบุเสริมว่า การร่วมทุนดังกล่าวจะนำเอาจุดแข็ง และความเชี่ยวชาญอย่างมีนัยสำคัญของบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมารวมกัน เพื่อสร้างองค์กรนวัตกรรมที่จะนำทางในการพัฒนาระบบการต่อสู้ทางอากาศรุ่นต่อไป รวมถึงสร้างงานที่มีทักษะและคุณค่าสูงในระยะยาว ในประเทศหุ้นส่วนอีกหลายสิบปีข้างหน้า
อนึ่ง ทั้งสามประเทศตกลงที่จะจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ ภายใต้โครงการ Global Combat Air Programme หรือ จีซีเอพี ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มข้ามชาติที่จัดตั้งโดยสหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น และอิตาลี เมื่อปี 2565 เพื่อพัฒนาเครื่องบินขับไล่ล่องหนเทคโนโลยีสเตลท์ รุ่นที่ 6 ซึ่งจะนำมาใช้แทนเครื่องบินขับไล่ ยูโรไฟเตอร์ ไทฟูน และเครื่องบินขับไล่ เอฟ-2 ของญี่ปุ่น.
เครดิตภาพ : AFP