โรซาลินด์ วอล์เคอร์ หญิงชราวัย 80 ปีชาวอเมริกัน เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บอยู่นานถึง 1 เดือน หลังจากติดอยู่ในเตียงของบริษัทผู้ผลิตเตียง “สลีป นัมเบอร์” เป็นเวลา 2 วันและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2566

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ แองเจลา โมน ลูกสาวของวอล์เคอร์ตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลเซนต์หลุยส์ เคาน์ตี รัฐมิสซูรี โดยมีบริษัทสลีป นัมเบอร์ คอร์เปอเรชันส์ และบริษัทเลกจิตต์ แอนด์ แพลตต์ อินคอร์เปอเรเต็ด เป็นจำเลยในฐานะที่เป็นผู้ผลิต จำหน่ายและรับประกันการใช้งานเตียง เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567

ข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นประกอบการฟ้องร้องต่อศาลกล่าวอ้างว่า วอล์เคอร์ซื้อเตียงของบริษัทสลีป นัมเบอร์ ซึ่งมีระยะการรับประกัน 25 ปี ที่เมืองเบรนต์วูด รัฐมิสซูรี เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2557

ต่อมาในวันที่ 1 มี.ค. 2566 เกิดเหตุที่ทำให้วอล์เคอร์ติดอยู่ในซอกระหว่างเตียงกับผนังในห้องนอนที่บ้านของเธอเองในเมืองกอดฟรีย์ รัฐอิลลินอยส์ เนื่องจากเตียงดังกล่าวซึ่งกำลังอยู่ในโหมดปรับระดับยกขึ้น แต่จู่ ๆ ก็ลดระดับลงอย่างกะทันหัน ทำให้วอล์เคอร์ซึ่งกำลังอยู่ในตำแหน่งระหว่างเตียงกับผนังห้องต้องติดอยู่ตรงจุดดังกล่าวและไม่สามารถออกมาได้

โรซาลินด์ วอล์เคอร์ เสียชีวิตหลังจากได้รับบาดเจ็บเพราะติดอยู่ในซอกระหว่างเตียงกับผนัง

คุณยายวอล์เคอร์ติดอยู่ในซอกเตียงนานถึง 2 วัน จนถึงวันที่ 3 มี.ค. 2566 จึงมีทีมกู้ภัยฉุกเฉินเข้าไปช่วยเธอออกมาได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ จากนั้นก็ย้ายออกไปรักษาตัวต่อที่ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพทางกายแล้วจึงถูกส่งตัวกลับบ้านในฐานะผู้ป่วยระยะสุดท้าย 

เอกสารยื่นฟ้องระบุว่า วอล์เคอร์ต้องทนทุกข์ทรมานตลอดเวลาจนกระทั่งเธอเสียชีวิตในวันที่ 3 เม.ย. 2566 

โจทก์ตัดสินใจยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตและออกแบบเตียงโดยกล่าวหาว่า บริษัทขายเตียงดังกล่าวไม่มีคำเตือนที่ชัดเจนว่า อาจเกิดเหตุการณ์เช่นที่เกิดขึ้นกับวอล์เคอร์ได้และไม่มีคำแนะนำหรือข้อความแจ้งเตือนที่ชัดเจนเพียงพอในคู่มือหรือป้ายเตือนติดอยู่ที่เตียง ซึ่งระบุว่าผู้ใช้ไม่ควรไปอยู่ระหว่างเตียงและผนัง เพราะอาจจะติดอยู่ในนั้นได้ 

หนึ่งในโมเดลเตียงปรับระดับได้ของบริษัทสลีป นัมเบอร์

ข้อมูลจากเอกสารยื่นฟ้องระบุว่าเตียง “ทรุดตัวลงอย่างแรงจนทำให้นางวอล์เคอร์ติดอยู่กับที่” และยังชี้ว่าเตียงดังกล่าวไม่มี “กลไกการปลดเตียงที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้นางวอล์เคอร์หลุดจากตำแหน่งที่ติดอยู่ได้”

คำฟ้องยังระบุอีกว่าเตียงมี “โหมดตั้งเวลา” ซึ่งทำให้เตียง “ลดตำแหน่งลงโดยที่นางวอล์เคอร์ไม่ได้ออกแรงขยับหรือส่งสัญญาณด้วยท่าทางใดๆ” นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่า “ความประมาทเลินเล่อนี้เป็นสาเหตุโดยตรงของการบาดเจ็บ (และ) ความทุกข์ทรมานของนางวอล์เคอร์” ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต 

ฝ่ายโจทก์เรียกร้องค่าชดเชยสำหรับ “ความทุกข์ทรมานและการบาดเจ็บก่อนเสียชีวิตของแม่เธอ” รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้อง เป็นจำนวนเงินที่ “ยุติธรรมและสมเหตุสมผล” ซึ่งเกินกำหนดจำนวน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 853,737 บาท) ที่ศาลสั่งให้ชดเชยได้ 

ด้านโฆษกของสลีป นัมเบอร์ ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับคดีนี้ว่า ได้รับทราบการฟ้องร้องแล้ว 

“คดีดังกล่าวระบุว่าฐานปรับระดับที่ทำงานผิดปกติซึ่งเป็นสินค้าที่ซื้อมาในปี 2557 เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โรซาลินด์ วอล์เคอร์เสียชีวิต” บริษัทกล่าวเสริม “เราเข้าใจว่า เหตุการณ์นี้ได้รับการกล่าวอ้างว่าเกิดขึ้นในเดือน มี.ค. 2566 เราได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาหลังจากการยื่นฟ้องเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนางวอล์เคอร์สำหรับการสูญเสียอันน่าเศร้าของพวกเขา

“ขณะนี้ ทีมกฎหมายของเรากำลังตรวจสอบคดีความนี้ สลีป นัมเบอร์ยืนหยัดเคียงข้างการออกแบบและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และกำลังให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามการสอบสวนหรือดำเนินการที่จำเป็นทุกประการ” แถลงการณ์ดังกล่าวสรุป

ที่มา : people.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, ELIAS, KALLAL AND SCHAFF FUNERAL HOME